วันที่ 26-05-2023 | อ่าน : 268
ถ่ายเป็นเลือด ริดสีดวงทวาร หรือ มะเร็งลำไส้ใหญ่?
ถ่ายเป็นเลือด คืออะไร มีอาการอย่างไร
การถ่ายอุจจาระเป็นเลือด คือการมีเลือดปนออกมาทางทวารหนัก โดยเป็นได้ทั้ง ถ่ายเป็นเลือดสด (มีสีแดงสด) หรือเป็นเลือดเก่า ๆ (มีสีแดงคล้ำ น้ำตาล หรือดำ) ทั้งลักษณะเป็นหยด หรือ ปนอยู่ในก้อนอุจจาระ หรืออุจจาระลักษณะเป็นสีดำ และ มีทั้งที่มีอาการปวดหรือไม่ปวดขณะถ่ายอุจจาระ ซึ่งลักษณะที่แตกต่างกันนี้อาจบ่งบอกถึงสาเหตุและโรคที่แตกต่างกัน ดังนั้นหากมีอาการถ่ายเป็นเลือด ควรสังเกตสี ลักษณะ อาการอื่นที่ร่วมด้วย เพื่อสามารถนำไปประกอบการวินิจฉัยของแพทย์ได้
ถ่ายเป็นเลือด บ่งบอกโรคอะไร?
การถ่ายเป็นเลือดสามารถเป็นอาการของโรคได้หลายโรค ไม่เฉพาะเพียงแต่ริดสีดวงทวารเท่านั้น โดยโรคที่อาจทำให้มีอาการถ่ายเป็นเลือด ได้แก่
อาการถ่ายเป็นเลือด เมื่อไหร่ควรมาพบแพทย์
เนื่องจากอาการของริดสีดวงทวารหนัก และเนื้องอก/มะเร็งลำไส้ใหญ่ส่วนปลาย บางครั้งมีความคล้ายคลึงกัน โดยเฉพาะถ้ามีอาการดังนี้ ควรมาพบแพทย์ เพื่อตรวจวินิจฉัยแยกโรคให้ชัดเจนและนำไปสู่การรักษาที่เหมาะสม (เพราะในปัจจุบันมะเร็งลำไส้ใหญ่ไม่ได้เกิดกับผู้สูงอายุเท่านั้น คนที่มีอายุน้อยก็สามารถเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้เช่นกัน)
ริดสีดวงทวารคืออะไร มีอาการอย่างไร?
ริดสีดวงทวาร คือ การที่เส้นเลือดบริเวณทวารหนักมีการโป่งพองจากการเบ่งหรือแรงดันอย่างต่อเนื่อง บางครั้งเส้นเลือดที่โป่งพองมีขนาดใหญ่จนไม่สามารถยุบตัวลงไปเองได้ อาจเกิดการแตก หรือมีเลือดออกเป็นหยดหลังการถ่ายหรืออาจพบเมื่อทำความสะอาด และอาจเกิดความเจ็บปวดได้ในบางราย บางรายอาจคลำได้ก้อนบริเวณทวารหนัก มีอาการคัน หรือขับถ่ายไม่สะดวก
โดยริดสีดวงทวารแบ่งออกเป็น 2 ชนิดคือ
1. ริดสีดวงทวารภายใน จะเกิดขึ้นภายในทวารหนัก โดยหลอดเลือดที่โป่งพองอาจจะไม่โผล่ออกมาให้เห็น และไม่สามารถคลำได้ จะตรวจพบต่อเมื่อส่องกล้องเท่านั้น ซึ่งมี 4 ระยะของโรค ตามขนาดจากเล็กไปใหญ่นั่นคือ
2. ริดสีดวงทวารภายนอก จะเกิดขึ้นบริเวณปากรอยย่นทวารหนัก จากการที่กลุ่มหลอดเลือดดำใต้ผิวหนังปากทวารหนักโป่งพอง สามารถมองเห็นและคลำได้ เวลาอักเสบจะมีอาการเจ็บปวด
บางคนอาจมีทั้งริดสีดวงภายในและภายนอกอักเสบในเวลาเดียวกัน
การรักษาอาการถ่ายเป็นเลือด ที่เกิดจากริดสีดวงทวารหนัก
วิธีการรักษาโรคริดสีดวงทวารหนักขึ้นอยู่กับอาการและความรุนแรงของแต่ละบุคคล ได้แก่
การรักษาโดยไม่ผ่าตัด
ใช้รักษาริดสีดวงทวารหนักภายใน ระยะที่ 1 และ 2 คือขนาดไม่ใหญ่มาก ซึ่งมีหลายวิธี ดังนี้
การรักษาโดยการผ่าตัดริดสีดวง
เหมาะกับริดสีดวงภายนอกอักเสบ และ ริดสีดวงภายใน ระยะที่ 3 และ 4
มะเร็งลำไส้ใหญ่คืออะไร มีอาการอย่างไร
มะเร็งลำไส้ใหญ่ คือเนื้องอกชนิดร้ายแรงที่มีการเจริญเติบโตที่บริเวณลำไส้ใหญ่ และมักสัมพันธ์กับติ่งเนื้อในลำไส้ใหญ่ โดยในบางราย อาจพบมีเลือดปนมากับอุจจาระ โดยมีลักษณะเป็นเลือดปนอยู่ในเนื้ออุจจาระ หรือเคลือบอยู่กับอุจจาระ บางรายมีอาการถ่ายเป็นเลือด หรือถ่ายดำ ท้องผูกสลับท้องเสีย อาจมีอาการเบื่ออาหาร น้ำหนักลด หรือหากเป็นในระยะรุนแรงอาจมีอาการของระบบอื่นที่มีการแพร่กระจายของมะเร็ง เช่น ภาวะเหลือง น้ำในท้อง น้ำในช่องเยื่อหุ้มปอด หรืออาการทางระบบประสามจากการแพร่กระจายไปที่สมอง เป็นต้น
การวินิจฉัยและรักษาโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
การวินิจฉัยสามารถทำได้ตั้งแต่ในระยะต้น โดยปัจจุบันมีการแนะนำการตรวจส่องกล้องลำไส้ใหญ่ในผู้ที่มีอายุมากกว่า 45 ปี หรือผู้ที่อายุน้อยกว่า 45 ปีแต่มีอาการผิดปกติและมีความเสี่ยง เช่น เบาหวาน ประวัติโรคมะเร็งและเนื้องอกในครอบครัว โรคไขมันพอกตับ เป็นต้น
ในการส่องกล้องลำไส้ใหญ่จะตรวจสอบว่ามีติ่งเนื้อในลำไส้ใหญ่ ซึ่งมักสัมพันธ์กับมะเร็งหรือไม่ หรือหากพบความผิดปกติอื่น ๆ แพทย์ก็จะตัดติ่งเนื้อนั้นผ่านกล้อง และ นำชิ้นเนื้อนั้น ๆ ออกมาตรวจพิสูจน์ว่าเป็นมะเร็งหรือไม่ โดยมะเร็งลำไส้ใหญ่เป็นมะเร็งชนิดที่ถ้าตรวจพบตั้งแต่ในระยะเริ่มต้นก็สามารถรักษาให้หายขาดได้ การรักษาขึ้นอยู่กับระยะและชนิดของมะเร็ง
ถ่ายเป็นเลือด ป้องกันได้อย่างไร
การถ่ายเป็นเลือด สามารถป้องกันได้โดยการรับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์หรือกากใย เช่น ผัก ผลไม้ เพื่อป้องกันท้องผูก หรือปรึกษาแพทย์เพื่อรับยาระบายหากใช้ยาที่อาจทำให้เกิดอาการท้องผูก เช่น
ขอขอบคุณข้อมูล นพ. พรเทพ ประทานวณิช อนุสาขาศัลยศาสตร์ลำไส้ใหญ่และทวารหนัก โรงพยาบาล สมิติเวช
หากมีปัญหาสุขภาพผู้ป่วยมะเร็ง เราคืออีกหนึ่งทางออก ที่จะช่วยให้ผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตปกติได้อีกครั้ง ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ โปรดคลิก inbox Facebook ชมรมฟื้นฟูสุขภาพผู้ป่วยโรคมะเร็ง
ชมรมฟื้นฟูสุขภาพผู้ป่วยโรคมะเร็งแห่งประเทศไทย 213/5 อาคารอโศกทาวเวอร์ ชั้น 6 ถ.สุขุมวิท 21(อโศก) แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 1011
Copyright © 2021 www.siamca.com ขอสงวนสิทธิ์ ในการนำรูปภาพ หรือ ข้อความในเว็บไซต์ ไปเผยแพร่ หรือ ทำซ้ำ จะต้องได้รับการอนุญาตก่อนจึงจะกระทำได้