วันที่ 10-03-2021 | อ่าน : 2384
สถาบันวิจัยมะเร็งของสหรัฐอเมริกา และกองทุนวิจัยมะเร็งโลกพบว่า ประมาณร้อยละ 30-40 ของมะเร็งทั้งหมด สามารถป้องกันได้โดยการปรับวิถีชีวิต ซึ่งการบริโภคอาหารมีบทบาทสำคัญต่อโรคมะเร็ง รวมถึงการออกกำลังกาย และการรักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ปัจจัยเสี่ยงของโรคมะเร็งที่เกี่ยวข้องกับโภชนาการ ได้แก่ ความอ้วน การบริโภคอาหารไม่เหมาะสม เช่น การบริโภคน้ำตาลสูง อาหารที่ขัดสี ซึ่งจะนำไปสู่การเป็นเบาหวาน การบริโภคใยอาหารน้อย การบริโภคเนื้อสัตว์(เนื้อแดง)มาก ความไม่สมดุลของกรดไขมันโอเมก้า 3 และโอเมก้า 6
การรับประทานผักและผลไม้ในปริมาณที่มากจะช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นมะเร็ง มีรายงานวิจัยพบว่าพืชตระกูลกระเทียม และตระกูลกะหล่ำช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นมะเร็งได้ นอกจากนั้นสารอาหารซีลีเนียม กรดโฟลิค วิตามินบี12 วิตามินดี สารต้านอนุมูลอิสระ เช่น กลุ่มแคโรทีนอยด์ ซึ่งได้แก่ อัลฟ่า และเบต้าแคโรทีน ไลโคพีน ลูทีน และคริปโตแซนทีน ยังมีผลต่อการป้องกันมะเร็งอีกด้วย หากบริโภคอาหารให้เหมาะสม จะสามารถลดความเสี่ยงของการเกิด มะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่ และมะเร็งต่อมลูกหมากได้ร้อยละ 60 –70 มะเร็งปอดได้ร้อยละ 40 -50
การบริโภคอาหารในปริมาณที่เหมาะสมกับความต้องการของร่างกายของแต่ละคน กล่าวคือให้มีพลังงานที่เหมาะสม ซึ่งขึ้นอยู่กับเพศ อายุ ขนาดของร่างกาย กิจกรรมที่ทำอยู่ในแต่ละวัน และความเจ็บป่วยด้วย สำหรับคนทั่วไปซึ่งทำงานเบาเพศหญิงวัยทำงาน และผู้สูงอายุ ควรได้รับพลังงานวันละ 1,600 กิโลแคลอรี สำหรับผู้ชายวัยทำงานและเด็กวัยรุ่นควรได้รับวันละ 2,000 กิโลแคลอรี โดยอาจบริโภคอาหารตามกลุ่มต่างๆ ดังนี้
นอกจากการบริโภคอาหาร การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต หรือพฤติกรรม ทั้งในด้านการออกกำลังกาย การดื่มสุรา การสูบบุหรี่ ตลอดจนทำจิตใจให้เบิกบานผ่องใสจะช่วยให้ไม่กลับมาเป็นมะเร็งอีก หลังจากการรักษาอาจจะได้รับคำแนะนำจากผู้ที่ประสงค์ดีหลายๆ ท่านว่าไปรักษาที่นั่นที่โน่นดี ไปรับประทานยาพระ ยาหม้อ หมอพระ รวมทั้งชีวจิต ท่านต้องตั้งสติว่าข้อมูลที่ท่านได้รับมีความน่าเชื่อถือทางวิทยาศาสตร์หรือไม่ มีการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์หรือไม่ อย่าไปเชื่อเพราะเขาบอกหรือตามคำเล่าลือเท่านั้น เพราะอาจจะทำให้ท่านเสียเงินและเสียเวลา สถาบันวิจัยมะเร็งของสหรัฐอเมริกา (The American Institute for Cancer Research) และสมาคมมะเร็งแห่งสหรัฐอเมริกา (The American Cancer Society) ได้แนะแนวทางในการดูแลตัวเองให้แข็งแรง และลดปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็ง หรือแนวทางการป้องกันมะเร็งดังนี้
1. ควรเลือกอาหารที่มาจากพืชเป็นส่วนใหญ่
2. รับประทานผักและผลไม้เพิ่มขึ้น
หากท่านรับประทานผักและผลไม้มากเท่าใดท่านจะได้รับสารอาหาร วิตามิน สารต้านอนุมูลอิสระมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งจะเพิ่มกำลังในการป้องกันมะเร็ง
3. รักษาน้ำหนักที่เหมาะสมและออกกำลังกายเป็นประจำ
น้ำหนักที่เหมาะสมควรอยู่ระหว่างดัชนีมวลกาย 18.5-22.9 กิโลกรัม/เมตร2 สำหรับคนที่น้ำหนักน้อยต้องรับประทานอาหารเพิ่ม โดยอาจเพิ่มอาหารพวกข้าว แป้ง ธัญพืชที่ไม่ขัดสีและอาหารที่ให้โปรตีนมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นปลา ถั่วเหลืองหรือเต้าหู้ โรคอ้วนทำให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพมาก ดังนั้นสำหรับคนที่มีน้ำหนักเกิน ต้องรับประทานอาหารน้อยลง ควรเลือกชนิดของอาหารที่บริโภค วิธีการรับประทานอย่างฉลาด ดังนี้
การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอทำให้ร่างกายแข็งแรง ลดความเครียดได้ ทำให้ระบบย่อยอาหารและการขับถ่ายดีขึ้น วิธีการออกกำลังกายอย่างง่ายๆ ทำได้ดังนี้
4. ลดการดื่มสุรา
การดื่มสุราก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพ โดยเฉพาะผู้ที่เป็นมะเร็งตับควรงดการดื่มสุรา
5. เลือกรับประทานอาหารที่มีปริมาณไขมันต่ำ
อาหารที่มีไขมันสูงและเกลือสูง จะเพิ่มโอกาสเป็นมะเร็งโดยเฉพาะกรดไขมันอิ่มตัวและกรดไขมันทรานส์ (trans-fatty acid) ซึ่งไขมันทั้งสองเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อมะเร็งและโรคหัวใจและหลอดเลือด ไขมันอิ่มตัว พบมากในน้ำมันสัตว์ เช่น น้ำมันหมู น้ำมันไก่ หนังสัตว์ และกะทิ ส่วนไขมันทรานส์ พบมากในเนยขาว และมาการีน ซึ่งเป็นส่วนประกอบในการทำขนมพวกเบเกอรี จึงควรงดการรับประทานอาหารดังกล่าว แต่มิได้ห้ามรับประทานไขมันทั้งหมด เพราะไขมันก็มีประโยชน์ต่อร่างกาย คือ ให้พลังงาน และยังไปสร้างฮอร์โมนต่างๆ นอกจากนั้นหากไม่รับประทานเลย วิตามินที่ละลายในไขมันซึ่งได้แก่ วิตามินเอ ดี อี เค จะไม่สามารถเข้าสู่ร่างกายได้
6. ปรุงอาหารอย่างถูกวิธี
การปรุงอาหารพวกเนื้อสัตว์โดยการปิ้ง ย่าง หรือเผา ด้วยความร้อนที่สูงจะทำให้เกิดสารก่อมะเร็ง เนื่องจากน้ำมันที่ถูกไฟไหม้จะก่อให้เกิดสาร polycyclic aromatic hydrocarbons ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง ควรจะเลี่ยงไปใช้วิธีอื่น เช่น การอบ นึ่ง ต้ม ทอดในน้ำ วิธีการที่จะลดการเกิดสารก่อมะเร็งมีดังนี้
7. การเตรียมและการประกอบอาหารอย่างปลอดภัย
ผู้ป่วยที่ฟื้นจากโรคมะเร็งอาจจะมีภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอ มีโอกาสจะเกิดโรคจากอาหารเป็นพิษสูง ดังนั้นควรปฏิบัติในเรื่องความปลอดภัยในอาหาร จะช่วยป้องกันการโรคติดเชื้อได้
8. งดการสูบบุหรี่
การสูบบุหรี่จะทำให้เกิดมะเร็งได้หลายระบบ โดยเฉพาะมะเร็งปอด การเลิกสูบบุหรี่ทำให้ลดการเกิดมะเร็งได้ 30%
หากมีปัญหาสุขภาพผู้ป่วยมะเร็ง เราคืออีกหนึ่งทางออก ที่จะช่วยให้ผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตปกติได้อีกครั้ง ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ โปรดคลิก inbox Facebook ชมรมฟื้นฟูสุขภาพผู้ป่วยโรคมะเร็ง
ชมรมฟื้นฟูสุขภาพผู้ป่วยโรคมะเร็งแห่งประเทศไทย 213/5 อาคารอโศกทาวเวอร์ ชั้น 6 ถ.สุขุมวิท 21(อโศก) แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 1011
Copyright © 2021 www.siamca.com ขอสงวนสิทธิ์ ในการนำรูปภาพ หรือ ข้อความในเว็บไซต์ ไปเผยแพร่ หรือ ทำซ้ำ จะต้องได้รับการอนุญาตก่อนจึงจะกระทำได้