รักนม ต้องดูแลนม

วันที่ 10-06-2016 | อ่าน : 3686

     แพทย์จีนมาลิน   ปิยะชินวรรณ กูรูผู้เชี่ยวชาญการรักษาโรคมะเร็งด้วยศาสตร์แพทย์แผนจีน กล่าวว่า ปัจจุบันสาเหตการเกิดโรคมะเร็งมี 2 ปัจจัย ได้แก่ 1.ปัจจัยภายนอก อาทิพิษรอบตัว มลภาวะ  อากาศที่เป็นพิษ ความชื้น  ความร้อน  ซึ่งจะกระทบต่อร่างกาย อีกสิ่งหนึ่งก็คือเรื่องของอาหารการกิน ปัจจุบันถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก อาหารการกินไม่ว่าจะเป็นอาหารที่ปนเปื้อน อาหารค้างคืน  อาหารบูดเน่า  หรืออาหารที่มีสารปรุงแต่ง เช่นอาหารที่ใส่สี ฟอกสี หรืออาหารที่มีเชื้อรา เมื่อเราไม่ระมัดระวังแล้วกินเข้าไปสิ่งเหล่านี้เมื่อกินเป็นเวลานานแล้วก็เกิดการสะสม ซึ่งจะเข้าไปสะสมตามอวัยวะต่างๆในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น ตับ กระเพาะ ม้าม ไต ลำไส้  นานๆเข้าก็จะทำให้การไหลเวียนของชี่เลือด หรือพวกระบบย่อยอาหาร ระบบเลือดเกิดปัญหา

     ส่วนปัจจัยที่สองมาปัจจัยจากภายใน สาเหตุหลักๆก็จะเกิดจากพันธุกรรม แต่ปัจจุบันเปอร์เซ็นต์ของการเกิดมะเร็งจากพันธุกรรมมีไม่มากเท่าไร  ปัจจัยที่อาจทำให้เราต้องเสี่ยงกับโรคมะเร็งนั้นมีทั้งปัจจัยที่เราสามารถควบคุมได้ และปัจจัยที่เราไม่สามารถควบคุมได้ สิ่งที่เราสามารถควบคุมได้ก็คือตัวของเราเอง ตั้งแต่ การรับประทานอาหาร การใช้ชีวิต ภาวะอารมณ์ต่างๆ ความเครียด ความโกรธ การออกกำลังกาย แต่สิ่งที่เป็นปัจจัยหลักทำให้เกิดมะเร็งเต้านม นั่นคือ ความเครียด สอบถามผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งเต้านมส่วนใหญ่มีภาวการณ์ใช้ชีวิต การทำงานจนทำให้เกิดความเครียด โดยเฉพาะผู้ที่ทำงาน การเงิน บัญชี แม่บ้าน เหล่านี้จะมีความเครียดลึกๆ และมะเร็งก็ค่อยๆคืบคลาน สะสมจนนานเข้าๆจึงเกิดเป็นโรคมะเร็ง หลายคนก็มีข้อโต้แย้งว่า ทั้งที่ออกกำลังกายแล้ว สนใจการกินแล้ว แล้วทำไมถึงยังโชคร้ายเป็นมะเร็งเต้านม

ทำไมความเครียดถึงทำให้เราเป็นมะเร็งได้???

     ความเครียด นั้นจะเข้าไปยับยั้งการทำงาน การไหลเวียนของชี่เลือด ในร่างกายของเรา ที่ไหลเวียนตามธรรมชาติของมัน แต่เมื่อไหร่ที่เส้นลมปราณใด เส้นลมปราณหนึ่งถูกยับยั้งการทำงาน ทำให้อวัยวะต่างๆรวนไปหมด ทำอะไรก็ไม่เข้าขากันแล้ว ต่างคนต่างไป จึงทำให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายตกต่ำ เมื่อการไหลเวียนของชี่เลือดติดขัดก็จะเกิดอันตราย ทำให้คนนั้นอารมณ์ไม่ดีบ้าง หงุดหงิด ไม่เจริญอาหาร ท้องผูก นานๆเข้าระบบภูมิคุ้มกันก็แย่ อารมณ์เหล่านี้จะไปทำให้เกิดก้อน เกิดลิ่ม ในอวัยวะต่างๆ สะสมนานเข้าก็กลายเป็นก้อนเนื้อ แล้วจะทำอย่างไรเมื่อต้องป่วยเป็นมะเร็ง สิ่งที่จะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถก้าวข้ามอุปสรรคในการรักษาไปได้อันดับแรกก็คือ เรื่องความมุ่งมั่นตั้งใจ และมีกำลังใจว่าตนเองจะต้องหายจากโรคได้ หากมีกำลังใจมะเร็งก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพราะมะเร็งเป็นโรคที่กลัวความร่าเริง กลัวออกซิเจน ดังนั้นหากเรามีรอยยิ้ม อารมณ์ดีก็จะฆ่ามะเร็งได้

     คุณหมอมาลินยังกล่าวต่อไปว่า การรักษามะเร็งในปัจจุบันมีหลากหลายวิธี ซึี่งอีกวิธีหนึ่งที่จะกล่าวถึงคือ การรักษาแบบผสมผสาน โดยใช้ทั้งแำทย์แผนปัจจุบันและแพทย์แผนจีนเข้ามาช่วย ข้อดีของการใช้สมุนไพรจีน และการรักษาด้วยสมุนไพรคือการรักษาแบบองค์รวม อาทิ เป็นมะเร็งที่ตับ รักษาด้วยสมุนไพร ยาจะไม่ไปทำลายเชื้อที่ตับโดยตรง แต่เป็นการรักษาโดยการบำบัดทั่วร่างกาย เพื่อเสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง นอกจากนี้ก็จะมีตัวยาที่เข้าไปขจัดปัญหาแต่ละส่วน มีการวินิจฉัยแยกแยะว่าส่วนไหนที่เป็นต้นเหตุของมะเร็ง เช่น ตับ ก็จะมีตัวยาที่จะไปเสริมหรือฟื้นสมรรถภาพของตับหรือไปต่อต้านเซลล์มะเร็งนั้น เพราะฉะนั้นศาสตร์การรักษาด้วยแพทย์แผนจีนจะมีความลึกซึ้งและค่อนข้างละเอียดอ่อนกว่าการรักษาแบบแพทย์แผนปัจจุบัน เป็นการบำบัดทั้งร่างกาย ไม่ใช่มุ่งแต่รักษาเฉพาะที่มะเร็งถือกำเนิดขึ้น ฉะนั้นหมอก็เห็นว่ามันก็ควรจะใช้ร่วมกันถึงจะทำให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาอย่างสูงสุด

    นอกจากจะมีคุณหมอจากทั้งแพทย์แผนจีนและแพทย์แผนปัจจุบันมาให้ความรู้แล้ว ยังมีแขกรับเชิญอดีตผู้ป่วยมะเร็งเต้านม มาเล่าประสบการณ์ป่วยมะเร็งเต้านมแบบเปิดอกให้ได้รับฟัง เรียกได้ว่า ได้ทั้งความรู้ในศาสตร์ปัจจุบันและความรู้จากศาสตร์แพทย์แผนจีนกันไปแบบเต็มอิ่ม ไม่เพียงความรู้ที่เต็มอิ่มแต่ยังได้รับประสบการณ์การรักษา และวิธีดูแลตัวเองให้ห่างไกลจากมะเร็งเต้านมซึ่งทางชมรมฟื้นฟูสุขภาพผู้ป่วยโรคมะเร็งและบริษัทเฟยดาจำกัด หวังเป็นอย่างยิ่งว่ากิจกรรมสุขภาพในครั้งนี้จะมอบทั้งประโยชน์และความสุขให้กับประชาชนและสังคม  กิจกรรมสุขภาพครั้งต่อไปจะเป็นกิจกรรมอะไรสามารถติดตามได้ที่ ชมรมฟื้นฟูสุขภาพผู้ป่วยโรคมะเร็งและบริษัทเฟยดาจำกัด เพราะเราอยากเห็นสุขภาพที่ดีของทุกคน

หากมีปัญหาสุขภาพผู้ป่วยมะเร็ง เราคืออีกหนึ่งทางออก ที่จะช่วยให้ผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตปกติได้อีกครั้ง ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ โปรดคลิก inbox Facebook ชมรมฟื้นฟูสุขภาพผู้ป่วยโรคมะเร็ง