พุทธ สมาธิ ธรรมะ บริหารใจสู้มะเร็ง
วันที่ 07-03-2016 | อ่าน : 3721
พุทธ สมาธิ ธรรมะ บริหารใจสู้มะเร็ง
วันเสาร์ที่ 5 มีนาคม 2559
ณ ห้องประชุมอาคารอโศกทาวเวอร์ ชั้น 9 ถนนสุขุมวิท 21 กรุงเทพฯ
หลักธรรมะถือเป็นสิ่งหนึ่งที่ชาวพุทธใช้เป็นแนวทางการปฏิบัติ และยึดเหนี่ยวจิตใจ ในการดำเนินชีวิตในแต่ละช่วงวัย ซึ่งในยุคปัจจุบันธรรมะไม่ใช่เพียงแต่อยู่ในกลุ่มผู้ที่สูงอายุเท่านั้น ที่ใช้เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ แต่ระดับของผู้ที่สนใจนั้นอายุน้อยลงเรื่อยๆ ทั้งนี้ ด้วยมาจากสาเหตุต่างๆที่ประกอบเป็นปัจจัยที่ทำให้สนใจ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ป่วยด้วยโรคต่างๆ ที่มองเห็นว่า การรักษาดูแลใจให้เข้มแข็งประกอบการรักษาทางการแพทย์ที่ดี ตัวยาที่ดีนั้น ถือว่าเป็นสิ่งที่สามารถนำพาไปสู่การหายจากอาการป่วยได้
และถือว่าเป็นสิ่งหนึ่งของการเล็งเห็นความสำคัญต่างๆของ บ.เฟยดา จำกัด และ ชมรมฟื้นฟูสุขภาพผู้ป่วยมะเร็ง ที่ให้ความสำคัญ โดยน้อมนำกิจกรรม “พุทธ-สมาธิ-ธรรมะ บริหารใจสู้มะเร็ง” ที่จัดขึ้น ณ อาคารอโศกทาวเวอร์ ชั้น 9 โดยนำทิศทางการการใช้ใจในการบริหารจัดการกับโรคดังกล่าวที่เกิดขึ้น โดยมุมมองของสื่อสายธรรมะที่มาร่วมกิจกรรม “คุณ พัชรา โพธิ์กลาง” บรรณาธิการบริหาร นิตยสารซีเคร็ทแมกกาซีน ได้มาบอกเล่าถึงประสบการณ์การคลุกคลี กับข้อมูลเกี่ยวกับธรรมะ พร้อมมุมมองความคิดการดูแลรักษาใจให้เข้มแข็งเพื่อผ่านสภาวะวิกฤตของชีวิตไปได้ โดยได้กล่าวว่า
“เรื่องธรรมะเป็นเรื่องที่เรานำมาใช้กับชีวิตประจำวันได้ โดยผ่านเรื่องราวการใช้ชีวิตประจำวันที่เราปฏิบัติ เช่น เราอาจจะต้องทำงาน หรือการดำเนินชีวิตในด้านอื่นๆ มันทำให้เรามีสติในการคิด การไตร่ตรองเวลาที่เราจะพูดคิด หรือทำอะไร บางครั้งคนเรามีปัญหาชีวิต อารมณ์เราจะเปลี่ยนตลอด อาจจะพลาดพลั้งกับทุกอย่างได้ การที่เราซึมซับเรื่องดีๆเข้ามาที่ใจเรา มันจะส่งผลดีว่าช่วยให้เราจะเย็นลง สติมันจะมามากขึ้น อย่างตัวเราเองนั้น ถือว่าได้เข้าถึงธรรมะ เพราะต้องคลุกคลี ได้สัมภาษณ์และเขียนเพื่อถ่ายทอดเรื่องราวเหล่านี้มากมาย อาจจะไม่ถึงปฏิบัติเป็นเรื่องราว แต่ก็ได้รับรู้ มันทำให้เรามีสภาวะของความเป็นน้ำมากขึ้น คือใครโยนอะไรมาใส่เรา ก็จมหายไปเลย คือไม่มีผลกระทบ แต่ต้องบอกว่าไม่ใช่เรื่องที่ง่ายนะของแบบนี้ต้องใช้เวลา ในการเข้าใจและซึมซับ มันไม่ใช่ว่าเราจะทำแล้วทำได้เลย แต่ถ้าทำได้แล้วมันก็จะดีมากๆ”
“ส่วนในแง่มุมของการใช้ธรรมะบำบัดผู้ป่วย อาการป่วยก็คือ ทุกข์อย่างหนึ่งที่เราอาจจะต้องเจอ ตัวเราเองถือมีประสบการณ์ตรงมากๆที่เกิดขึ้น เพราะคุณแม่เป็นมะเร็งที่ตับ เราต้องดูแล แต่คุณแม่ก็เข้มแข็งนะเราดูแลท่านมาเรื่อยๆ แต่ตอนนั้นเสียดายที่เราไม่ได้ใช้หลักธรรมะเข้ามาช่วยดูแลท่านมากนัก และสิ่งหนึ่งที่ได้รับมาคือ ธรรมะบำบัดอาการเจ็บป่วยนั้นคงไม่ใช่เรื่องที่จะหายได้ แต่สิ่งหนึ่งที่พบคือ “การแยกกายแยกจิต” คือกายป่วย แต่ใจเราต้องเข้มแข็งคือใจต้องไม่ป่วยไปด้วย ถามว่ามันมีทฤษฏีอะไรคงไม่ใช่ขนาดนั้น จากประสบการณ์ที่เราได้คลุกคลีกับธรรมะและสิ่งที่มันเกิดขึ้นกับเรา คือเวลาที่ป่วยเป็นไข้ เรารู้สึกว่าเราไม่สบาย เราจะทำอะไรของเราไปเรื่อยๆ จะไม่ตอกย้ำตัวเองว่าเราป่วย ไม่อยู่กับสิ่งที่บอกย้ำว่าเราป่วย สิ่งที่พบเจอคือ เราลืมไปเลยว่าป่วยอยู่ ให้เอาสติเอาใจไปไว้กับงานซะ กรณีที่เราไม่ถึงขนาดล้มหมอนนอนเสื่อนะ ยังพอทำงานได้ นี่คือวิธีง่ายๆอย่างที่เราบอก แยกกายแยกจิต เอาจิตเราไปจดจ่อกับสิ่งอื่นๆอย่างที่แนะนำ โดยส่วนตัวมองว่าธรรมะไม่ใช่เรื่องยากเลย เอามาใช้กับชีวิตเราได้ตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับว่า เราจะใช้วิธีการแบบไหนเท่านั้น ซึ่งมันก็มีให้เลือกเยอะ ในเรื่องของหนทางที่เราจะนำมาใช้ เราพร้อมที่จะใช้วิธีการแบบไหน ในมุมมองสื่อถือว่าเป็นความโชคดีที่ได้สัมผัสเรื่องราวธรรมะ ซึ่งคิดว่าคนทั่วไปก็มีวิธีการที่ปฏิบัติของแต่ละคน บางท่านอาจจะดีกว่าเราด้วย หมายถึงว่าแต่ละคนนั้นมีจริตที่ต่างกัน ก็ต้องเลือกวิธีที่ไม่ลำบากจนเกิดไป และเราสามารถที่จะผ่านไปได้ ตรงนี้ถือว่าจำเป็นกว่า”
ทั้งนี้ ยังรวมถึงการนำวิธีปฏิบัติธรรมสมาธิ ในแบบฉบับของ ครูหมู กุลธิดา แซ่ตั้ง เข้ามาช่วยเสริม ในแนวทางการจัดกิจกรรมที่น้อมนำส่งเสริมให้ทุกคนเกิดความรู้สึกที่ดีมีจิตใจที่เข้มแข็ง พร้อมที่จะก้าวสู่โลกแห่งความเป็นจริง ถือว่าเป็นการประสบความสำเร็จอย่างดียิ่งของผู้เข้าร่วมกิจกรรมที่ได้เทคนิคการปฏิบัติที่น่าสนใจ และนำไปใช้เพิ่มเติมกับชีวิตได้ดียิ่งขึ้น!!
หากมีปัญหาสุขภาพผู้ป่วยมะเร็ง เราคืออีกหนึ่งทางออก ที่จะช่วยให้ผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตปกติได้อีกครั้ง ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ โปรดคลิก inbox Facebook
ชมรมฟื้นฟูสุขภาพผู้ป่วยโรคมะเร็ง