13 อาการ ส่งสัญญาณว่าเราอาจเป็นโรคตับ

วันที่ 02-03-2016 | อ่าน : 13497


 13 อาการ ส่งสัญญาณว่าเราอาจเป็นโรคตับ

     ตับ อวัยวะที่เมื่อมีอาการป่วย มักจะพบสาเหตุก็ต่อเมื่อมีอาการทรุดตัวลง เพราะตับแทบจะไม่มีเส้นประสาท ดังนั้นแม้ตับจะถูกทำลายหรือสะสมของเสียไว้ก็ไม่มีอาการเจ็บป่วยที่ชัดเจน  โรคตับจึงเป็นภัยเงียบที่หลายๆคนคงหวาดกลัวไม่น้อย วันนี้เรามีวิธีสังเกตกันว่า หากเรามี

13 อาการนี้ คุณอาจกำลังมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคตับ
 
1.อาการตาเหลือง
     อาการตาเหลือง เกิดจากเลือดมีปริมาณบิลิรูบิน (bilirubin)มากเกินไป ซึ่งเกิดจากการที่ตับทำงานได้อย่างไม่สมบูรณ์
 
2.อาการตาขาวมีเส้นเลือดปรากฏ
     หากมีอาการตาแดง ปรากฏเส้นเลือดในตาขาวอย่างชัดเจน โดยที่ไม่ได้ใช้สายตามาก ต้องระวัง เพราะนั่นหมายถึง สมรรถภาพตับของคุณลดลงไป และตับทำงานหนัก
 
3.อาการมีน้ำตาคลอตลอดเวลา
 

 
     หากไม่ได้มีเรื่องเสียใจ ดีใจ หรือปลื้มปรีติ แต่จู่ๆคุณก็มีน้ำตาคลอตลอดเวลา ต้องระวัง เพราะในทางการแพทย์แผนจีนถือว่า ดวงตาคือหน้าต่างของตับ หากตับกิดปัญหาจะทำให้ตาจะขาดน้ำหล่อเลี้ยง เมื่อตับมีปัญหาดวงตาจึงต้องหลั่งน้ำตาออกมามากกว่าปกติ ทำให้เกิดภาวะน้ำตาคลอตลอดเวลา
 
4.อาการสีหน้าคล้ำ
     คนที่มีสีหน้าคล้ำหมอง มีเส้นเลือดปูดโปนขึ้นมาระหว่างคิ้วหรือขมับ อาจเป็นสัญญาณว่าตับของคุณกำลังทำงานผิดปกติ เพราะตับไม่สามารถขจัดสารพิษที่ตกค้างในเลือดได้อย่างเต็มที่ ทำให้เลือดเกิดความข้นหนืด ไหลเวียนได้ไม่ดี ส่งผลให้ผิวหนังมีสีคล้ำ
5.อาการหลอดเลือดดำใต้โคนลิ้นขอด
     ใต้โคนลิ้นของคนเราจะมีหลอดเลือดดำ 2 เส้น ให้เราลองสังเกตตัวเองดู หากหลอดเลือดดำใต้โคนลิ้นของเรามีลักษณะสีคล้ำผิดปกติ โป่งพอง และคดงอผิดรูป นั่นอาจเป็นสัญญาณเกี่ยวกับสุขภาพของคุณว่า ระบบหมุนเวียนเลือดของเราอาจมีปัญหา  และอาจมีต้นตอมากจากโรคตับ 
 
6.อาการเล็บเปราะหักง่าย
     หากคุณมีอาการเล็บเปราะหรือหักง่าย นั่นอาจมีสาเหตุมาจาก ร่างกายของคุณขาดธาตุเหล็ก อาจมีความเสี่ยงที่จะเป็นโลหิตจาง หรืออาจเป็นสาเหตุจากตับมีสมรรถภาพในการทำงานลดลง ส่งผลให้สารอาหารในเลือดลดลงด้วย
 
7.อาการเหงือกมีเลือดออก
     หากคุณพบว่าตนเองมีอาการเหงือกเลือดออก อาจเป็นสาเหตุหนึ่งจากโรคเหงือก แต่หากไปพบแพทย์แล้วไม่ได้เป็นเพราะโรคเหงือก อาจต้องระวัง เพราะนั่นอาจเป็นสัญญาณที่บอกว่าตับของคุณเกิดความผิดปกติจากภาวะตับอักเสบหรือตับแข็ง ทางที่ดีถ้าไม่ทราบสาเหตุควรพบแพทย์เพื่อตรวจเลือดและวินิจฉัยจะดีกว่า
 
8.อาการอ่อนเพลียเป็นประจำ
     อาการอ่อนเพลียอาจเกิดจากหลายสาเหตุ จากความเครียด การพักผ่อนไม่ได้เพียงพอ แต่ไม่ควรนิ่งนอนใจ เพราะอาการอ่อนเพลียอาจมีสาเหตุมาจากภาวะตับอักเสบ นอกจากนี้การอ่อนเพลียอย่างรุนแรงเป็นอาการของผู้ป่วยมะเร็งตับระยะสุดท้าย ดังนั้นควรไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัด
 
9.อาการปวดท้องโดยไม่ทราบสาเหตุ

 

 
     หากมีอาการปวดท้องบ่อยๆ แต่เมื่อไปพบแพทย์กลับไม่ทราบสาเหตุ ให้ตั้งข้อสงสัยว่า ตับของคุณอาจมีปัญหา หรืออาจเป็นอาการเตือนของโรคมะเร็งในท่อน้ำดีและมะเร็งตับ
 
10.อาการปลายจมูกแดง

 
     แอลกอฮอลล์ถือเป็นสารพิษตัวฉกาจอีกอย่างหนึ่งที่คล่าชีวิตผู้คนทั่วโลกไปหลายราย การดื่มแอลกอฮอลล์ นั้นอาจส่งผลให้ร่างกายสะสมสารพิษ และลอยไปตามกระแสเลือด ทำให้ระบบไหลเวียนไหลเวียนไม่สะดวก อวัยวะบางส่วนจึงได้รับออกซิเจนน้อยลง ดังนั้นหากดื่มเหล้าแล้วพบว่าปลายจมูกแดง ควรหยุดดื่มทันที  เพราะนั่นเป็นสัญญาณที่ตับกำลังบอกคุณว่า ตับกำลังทำงานหนักมากเกินไปแล้ว
 
11.อาการปัสสาวะเป็นสีคล้ำ
     อาการปัสสาวะสีคล้ำ มีผิวเหลือง เป็นภาวะของโรคดีซ่านซึ่งมีสาเหตุมาจากโรคตับ โรคตับอักเสบ
 
12.อาการเบื่ออาหาร  คลื่นไส้ อาเจียน
 

 
     เมื่อตับมีประสิทธิภาพในการทำงานลดลง ก็ทำให้ตับไม่สามารถเผาผลาญสารอาหารได้ ทำให้อาหารที่เราทานไปไม่ย่อย จนทำให้เราเบื่ออาหาร คลื่นไส้ และอาการเบื่ออาหารอาจเป็นอาการเบื้องต้นของผู้ป่วยโรคมะเร็ง ควรพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุ
 
13.อาการท้องโต เท้าบวม
     เมื่อสมรรถภาพของตับลดลง การดูดซึมของเหลวจึงทำได้ไม่ดี ส่งผลให้ของเหลวซึมเข้าสู่ช่องท้องและเท้า 
 
     13อาการข้างต้น อาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ดังนั้น เมื่อเกิดอาการเหล่านี้ ควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์วินิจฉัย ทราบสาเหตุที่แท้จริงและรักษาอาการได้รวดเร็ว 
 
 
 
 
 

หากมีปัญหาสุขภาพผู้ป่วยมะเร็ง เราคืออีกหนึ่งทางออก ที่จะช่วยให้ผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตปกติได้อีกครั้ง ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ โปรดคลิก inbox Facebook ชมรมฟื้นฟูสุขภาพผู้ป่วยโรคมะเร็ง

ความรู้มะเร็ง
การดูแลผู้ป่วย
การรักษามะเร็ง

ชมรมฟื้นฟูสุขภาพผู้ป่วยโรคมะเร็งแห่งประเทศไทย 213/5 อาคารอโศกทาวเวอร์ ชั้น 6 ถ.สุขุมวิท 21(อโศก) แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 1011

Copyright © 2021 www.siamca.com ขอสงวนสิทธิ์ ในการนำรูปภาพ หรือ ข้อความในเว็บไซต์ ไปเผยแพร่ หรือ ทำซ้ำ จะต้องได้รับการอนุญาตก่อนจึงจะกระทำได้