วันที่ 14-08-2015 | อ่าน : 6266
เรื่องจริงจากลูกคนหนึ่ง
( ลูกสาวผู้ป่วยมะเร็งสมอง )
โดย วันเพ็ญ ไกรสิทธิ์
คุณแม่ป่วยเป็นมะเร็งสมองค่ะ ก่อนหน้านั้นเราจะเห็นว่าท่านป่วยตลอด แต่เรามารู้จริงๆ ว่าเป็นมะเร็งก็อยู่ระยะ 4 ซึ่งเป็นระยะสุดท้ายแล้วตอนปี 2549
ก่อนที่จะรู้ว่าคุณแม่เป็นมะเร็งสมอง ตอนนั้นคุณแม่มีอาการปวดศีรษะมาก และมีอาการชาที่มือและขาด้านขวา ที่เห็นเด่นชัดก็คือตอนที่ใส่รองเท้าขาไม่สามารถที่จะประคองเท้าได้ เวลาหยิบแก้วๆ ก็ร่วงจากมือ มันเป็นอาการที่เด่นชัด และก็เวลาปวดศีรษะจะปวดอย่างรุนแรง ก็เลยพาคุณแม่ไปหาหมอที่โรงพยาบาล หลังจากนั้นคุณหมอก็ให้ยาพาราเซตามอลมาทานสักระยะหนึ่งประมาณเดือนหนึ่งเพื่อประเมินอาการ แต่ทานพาราเซตามอลแล้วก็ไม่ดีขึ้น ก็เลยให้ซีทีสแกนถึงได้รู้ว่าเป็นเนื้องอกในสมอง
พอเรารู้ว่าคุณแม่เป็นมะเร็งเราเสียใจมากเลยค่ะ ทำงานอยู่ก็วูบไปเลยจนเพื่อนที่ทำงานอยู่ด้วยกันตกใจว่าเราเป็นอะไร เรารับไม่ได้กับเรื่องพวกนี้ เพราะเท่าที่รู้ที่ฟังมาคนเป็นเนื้องอกในสมองโอกาสเสียชีวิตมีมาก คุณแม่เป็นเนื้องอกในสมองขนาด 7 ซม. แต่ยังโชคดีที่ไม่ทำให้เป็นอัมพาต
หลังจากนั้น 7 วัน คุณหมอให้ผ่าตัดเลย แต่เรายังลังเลอยู่เพราะว่าคุณหมอบอกว่ามีโอกาสจะเสียชีวิตจากการผ่าตัดถึง 20% ทางเราก็เลยปรึกษากันว่าไม่ผ่าตัดได้ไหม คุณหมอบอกว่าไม่ผ่าตัดไม่ได้ เราก็จำเป็นต้องให้ผ่า แต่ผ่าตัดเสร็จแล้วก็เอาเนื้องอกออกไม่ได้ เพราะเป็นเนื้องอกชนิดที่ผ่าออกไม่ได้ ก็เลยปิดแผลโดยเอากะโหลกศีรษะออก เพื่อไม่ให้คนไข้ปวดศีรษะมากขึ้น คุณแม่พักรักษาตัวได้หนึ่งเดือน เมื่อแผลหายคุณหมอก็ส่งเข้าไปฉายแสงต่อ การฉายแสงไม่ใช่การรักษาให้หายขาด แต่เป็นการพยุงคนไข้ให้อายุยืนมากยิ่งขึ้น ดิฉันก็ยอมนะคะ เพราะเราอยากจะอยู่กับคุณแม่ให้นานที่สุดดีกว่าไม่ได้ดูแลท่านเลย ระหว่างการฉายแสง เราก็ศึกษาในเรื่องวิธีการดูแลคนไข้ด้วยการฉายแสง และก็พยายามหาอาหาร ยา หรือว่าสมุนไพรต่างๆ ให้ท่านทานเพื่อที่จะให้ท่านต่อต้านกับการฉายแสงได้ เราให้คุณแม่ทานยาน้ำสมุนไพรเทียนเซียนในระหว่างที่ผ่าตัดและฉายแสงด้วย จนสุดท้ายแล้วท่านก็ผ่านพ้นไปได้
เมื่อจบการฉายแสงแล้วก็กลับมาที่บ้านประมาณ 8 เดือน เนื้องอกก็กลับมาอีก ทำให้ท่านสูญเสียการทรงตัว ล้มนอนอยู่ที่บ้านได้อย่างเดียวเป็นเวลา 2 เดือน ระหว่างนั้นก็เกิดมีอาการแผลกดทับขึ้นมาอีก คือ จะมีเนื้อด้านๆ เกิดขึ้นมาหลังก้นกบ ตอนแรกดิฉันไม่ทราบเพราะไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน บังเอิญตอนนั้นขณะดูแลคุณแม่อยู่ มันมีกลิ่นก็พยายามหาว่ากลิ่นมันมาจากตรงไหนแต่ก็หาไม่เจอ คิดว่าตรงนี้มันด้านๆ อยู่น่าจะอับชื้นก็เลยหาเตียงที่มีร่องเพื่อให้ไม่อบ พอเอาท่านลงปุ๊บมันก็ไปกดแผลด้านในที่มันด้านๆ ดันออกมา ดิฉันจึงรู้ว่าเป็นแผลกดทับ จึงส่งตัวคุณแม่เข้ามารักษาอีกครั้งที่โรงพยาบาล หลังจากนั้นต้องผ่าตัดอีกรอบหนึ่ง เพราะว่าต้องกว้านเอาตรงที่เป็นแผลกดทับออก หลังจากผ่าตัดคุณแม่ก็ไม่ค่อยดี ต้องใช้ออกชิเจนประคองมาตลอด เรียกว่าหลังจากผ่าตัดครั้งหลังสุดร่างกายก็ทรุดลงมาโดยตลอด และก็เข้ารับการดูแลจากโรงพยาบาลอีกครั้งหนึ่ง อยู่ได้ประมาณ 1 เดือนท่านก็เสียชีวิตเมื่อปี 2551
โรคมะเร็ง เป็นเซลส์เนื้อดีในร่างกายเราที่เปลี่ยนสภาพเป็นเซลส์เนื้อร้าย ปัจจุบันไม่มียารักษาให้หายขาดได้ และเมื่อเป็นแล้วต้องทนทุกข์ทรมานกับอาการของโรคที่เกิดขึ้น แต่ขอให้คุณอย่าสิ้นหวังเพราะถ้าเรารู้จักดูแลสุขภาพ พยายามสร้างภูมิคุ้มกันโรคทางกาย และมีจิตใจที่เข้มแข็งสู้กับโรคร้ายที่เป็นอยู่ รวมทั้งกำลังใจจากคนรอบข้าง คุณจะเป็นคนหนึ่งที่สามารถพิชิตโรคมะเร็งได้อย่างแน่นอน ดิฉันคิดว่ามะเร็งมีหนทางที่จะรักษาได้อย่าพึงท้อถอย ถ้าคุณมีคนที่คุณรัก ให้คุณดูแลเอาใจใส่ท่านตั้งแต่ท่านยังมีสุขภาพแข็งแรง ไม่ต้องรอให้ท่านแก่ ท่านเจ็บมีโรคร้ายแล้วค่อยดูแล เพราะเมื่อท่านมีโรคร้ายแล้วจะทำให้ดูแล รักษาได้ยาก อาจทำให้คุณมาเสียใจทีหลัง
ดิฉันคิดเสมอว่าในโลกนี้ไม่มีใครที่รักดิฉันเท่ากับคุณพ่อและคุณแม่ เพราะคุณพ่อและคุณแม่ให้ทั้งชีวิต การเลี้ยงดู อบรม สั่งสอนให้ดิฉันเป็นคนดีจนถึงทุกวันนี้ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับคุณแม่ในครั้งนี้ ดิฉันจะนำความประสบการณ์นี้ถ่ายทอดให้กับคนรอบข้างให้ห่างไกลโรคมะเร็ง โดยการปรับเปลี่ยนสุขนิสัยในเรื่องการดูแลตนเองก่อนเป็นโรคมะเร็ง คือ
1.อาหาร
2.อากาศ
3.ความเครียด
4.การพักผ่อน
5.การออกกำลังกาย
ตอนนี้ดิฉันก็ยังมีคุณพ่อซึ่งก็มีโรคร้ายหลายๆ โรค เหมือนกัน ดิฉันได้นำความรู้ต่างๆ มาดูแลคุณพ่อ ปัจจุบันได้ผลมาก ทุกอย่างในตัวคุณพ่อสามารถควบคุมได้กลับมาเป็นปกติ
สุดท้ายต้องขอขอบพระคุณ คุณหมอทุกท่านและนางพยาบาล ที่ได้ดูแลคุณแม่ดิฉันเป็นอย่างดีตลอดมา รวมทั้งต้องขอขอบคุณผู้ผลิตยาน้ำเทียนเซียนที่ช่วยให้คุณแม่ไม่ทรมานกับโรคร้าย ฟื้นฟูสุขภาพในระหว่างรักษาโรค และมีอายุยืนมากขึ้น ทั้งหมดนี้ คือ ความรู้สึกที่ลูกคนหนึ่งมีต่อบุพการี อยากบอกแม่ว่ารักแม่มากและจะรักตลอดไป และขอให้ผู้ป่วยมะเร็งทุกคน สู้นะคะ ดิฉันคิดว่าพวกคุณทำได้ค่ะ
หากมีปัญหาสุขภาพผู้ป่วยมะเร็ง เราคืออีกหนึ่งทางออก ที่จะช่วยให้ผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตปกติได้อีกครั้ง ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ โปรดคลิก inbox Facebook ชมรมฟื้นฟูสุขภาพผู้ป่วยโรคมะเร็ง
ชมรมฟื้นฟูสุขภาพผู้ป่วยโรคมะเร็งแห่งประเทศไทย 213/5 อาคารอโศกทาวเวอร์ ชั้น 6 ถ.สุขุมวิท 21(อโศก) แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 1011
Copyright © 2021 www.siamca.com ขอสงวนสิทธิ์ ในการนำรูปภาพ หรือ ข้อความในเว็บไซต์ ไปเผยแพร่ หรือ ทำซ้ำ จะต้องได้รับการอนุญาตก่อนจึงจะกระทำได้