วันที่ 14-08-2015 | อ่าน : 3812
ปรับชีวิตพิชิตมะเร็ง
(มะเร็งมดลูก)
ถ้าหากเป็นคุณ เมื่อต้องเดินสู่เส้นทางที่ปราศจากความหวังใด คุณจะทำอย่างไร? มีบางคนเพราะ “มะเร็ง” กลับทำให้ชีวิตพบกับแสงสว่าง แต่บางคน “มะเร็ง” เช่นกันที่ทำให้จิตใจเหงาหงอยเศร้าซึม หัวใจระทมทุกข์ตลอดทุกคืนวัน
รักผู้อื่น ช่วยเหลือสังคม คือคุณค่าของชีวิต ชีวิตมีเพียงหนึ่ง ทุกคนรู้ว่าสูญเสียชีวิตเหมือนสูญสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง ชีวิตมันเปรียบเสมือนทรัพย์สินอันล้ำค่าที่สุดของมนุษย์ แต่ผู้ที่เป็นมะเร็งความหวังของชีวิตกลับดิ่งลงเหวลึก การกลับมาได้ชีวิตใหม่ ทำให้ความกระตือรือร้นในการมีชีวิตอยู่ยิ่งเด่นชัด ยิ่งรู้จักรักทะนุถนอมชีวิตมากขึ้น ขณะเดียวกัน คุณค่าของชีวิตสะท้อนออกมาในรูปแบบของการรักผู้อื่น ช่วยเหลือสังคม ผู้ป่วยมะเร็งมากมายหลังจากการมีชีวิตครั้งที่สอง ก็คิดและทำอย่างนี้
สำหรับ แม่ชีเมี่ยวฮุ่ย ชาวไต้หวันที่เราจะแนะนำให้ท่านผู้อ่านรู้จักในฉบับนี้ คุณค่าของชีวิตท่าน คือ การได้แบ่งปันความสุขให้แก่คนมากมาย ซึ่งคนเหล่านั้นคือนักโทษอุกฉกรรจ์ในคุก แม่ชีเมี่ยวฮุ่ยไม่เพียงแต่ได้ฝากความหวังให้กับชีวิตที่เหลือเพียงน้อยนิดของนักโทษ ยังนำความหวังมาสู่สังคมโลกด้วย เป็นเวลากว่า 20 ปี ที่แม่ชีเมี่ยวฮุ่ยตั้งจิตปณิธานแน่วแน่ในการทำงานให้ความช่วยเหลือให้การศึกษาแก่นักโทษร้ายแรง และท่านก็ตั้งใจว่าจะทำงานนี้ต่อไปชั่วชีวิต หลังจากที่ท่านมีชีวิตใหม่จากการผ่านวิกฤตโรคมะเร็ง แม่ชีก็เปี่ยมไปด้วยพลังที่จะช่วยเหลือผู้อื่นเช่นนี้
แม่ชีเมี่ยวฮุ่ยใช้เวลาหลายปีที่ผ่านมาในการทำงานในคุกของกรุงไทเป ประเทศไต้หวัน ไม่ว่าจะเป็นนักโทษฆ่าคน วางเพลิง โจรปล้นชิง โจรเรียกค่าไถ่ ซึ่งล้วนเป็นโทษอุกฉกรรจ์ บางคนมีโทษประหาร ล้วนได้รับคำสั่งสอนจากแม่ชี โดยท่านได้นำหลักธรรมะและการสวดมนต์ มาสู่กลุ่มนักโทษ ให้บุคคลที่กำลังเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของชีวิต สามารถทำให้จิตใจที่ร้อนรุ่มหุนหันพลันแล่นและไม่สงบได้ปล่อยวางลง เคยมีนักโทษวัยรุ่นคนหนึ่ง ติดยาเสพติดและด้วยฤทธิ์เดชของสารเสพติดทำให้เขาฆ่าพ่อแม่ของตนเองโดยใช้มีดแทงสิบกว่าแผล ช่วง 3 ปีสุดท้ายของชีวิตเขา แม่ชีได้สั่งสอนให้เขาได้เรียนธรรมะ ทำให้ซาตานที่ไม่มีความเมตตากรุณาคนนี้ สุดท้ายบวชเป็นพระหันหาพระธรรม 3 ปีให้หลัง ซาตานคนนี้พกพาใบหน้าอันงดงาม เดินด้วยสองขาที่คล้องโซ่ตรวน ไปเผชิญหน้ากับความตายด้วยจิตใจที่สงบ วันนั้นเขาตื่นแต่เช้ามาสวดมนต์ เตรียมเดินทาง โดยไม่ลืมฝากจดหมายถึงแม่ชีเมี่ยวฮุ่ย บอกให้อาจารย์โปรดวางใจ เส้นทางที่เขาเดินไปคือการเริ่มต้นชีวิตใหม่ เขายังได้อุทิศอวัยวะให้การกุศล เพื่อชดเชยบาปกรรมหนักที่ได้ทำไว้
ด้วย “ยาน้ำสมุนไพรจีน” เส้นทางชีวิตได้กลับมาขึ้นฝั่ง เมื่อปี 2001 ชีวิตของแม่ชีเมี่ยวฮุ่ยก็เจอกับเรื่องร้ายแรง เนื่องจากเดิมครอบครัวของแม่ชีมีกรรมพันธุ์ของโรคมะเร็ง พี่สาวคนที่ 2 เป็นมะเร็งเต้านมขณะอายุ 40 ปี และไม่ถึง 2 ปี ก็เสียชีวิตไป ด้วยเหตุนี้ แม่ชีซึ่งเป็นคนทำงานหนักมาโดยตลอดมีความรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ จึงตัดสินใจไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในไต้หวัน ในที่สุดจึงพบว่าท่านมีก้อนเนื้อขนาด 8 ซม.ที่เต้านมข้างซ้าย เต้านมข้างขวาก็มีก้อนเนื้อขนาด 4 ซม. อีกทั้งต่อมน้ำเหลืองทั้ง 2 ด้านก็พบก้อนขนาด 4 ซม. ด้านละก้อน แข็งเป็นหินด้วยเช่นกัน หมอบอกว่าเป็นมะเร็งเต้านมขั้นที่ 3 แล้ว และต้องการให้แม่ชีผ่าตัดด่วนที่สุด แต่แม่ชีรู้สึกว่าพระโพธิสัตว์บอกให้ท่านรอก่อน อย่าเพิ่งให้โดนมีดหมออย่างง่ายๆ วันหนึ่งต้องมีคนมาช่วย ในที่สุดก็มีนักข่าวหนังสือพิมพ์ท่านหนึ่งแนะนำ “ยาน้ำสมุนไพรจีน” ให้แม่ชี นี่แหละคือคนที่ท่านรออยู่ คิดไม่ถึงว่าจะมีคนมอบยาตัวนี้ให้จริงๆ แม่ชีจึงรับประทานยาตั้งแต่นั้น และยืนหยัดเข้ารับการรักษาด้วยรังสีบำบัดเป็นเวลา 40 วัน หนึ่งปีหลังจากนั้น ก้อนเนื้อที่เติบโตในตัวแม่ชีค่อยๆ ฝ่อลง จนหายไปในที่สุด ผลการตรวจเลือดก็ปกติ แม้ว่าที่เต้านมข้างขวาจะปรากฏก้อนเนื้อขนาด 1 ซม. แต่หมอบอกว่าเป็นเนื้อดี ไม่มีอะไรต้องกังวล แม่ชีบอกว่า ทุกวันท่านพูดกับมะเร็งว่า “ทั้งหมดอยู่ด้วยกันนะ” แล้วพามันไปโรงพยาบาล ไปสอนธรรมะด้วยกัน
5 ปีมาแล้วที่แม่ชีเมี่ยวฮุ่ยรับประทาน “ยาน้ำสมุนไพรจีน” ท่านเชื่อว่า ยีน อารมณ์ การบริโภค ล้วนเป็นผลกระทบต่อมะเร็ง แต่ท่านก็เชื่อมั่นในประสิทธิภาพของ “ยาน้ำสมุนไพรจีน” แม้ท่านต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายเป็นระยะเวลานาน เพราะด้วยลักษณะท่าทางที่ดุร้ายของนักโทษอุกฉกรรจ์ อาทิ นักโทษคดียาเสพติด ฆ่าคน ปล้นชิง เหล่านี้ล้วนส่งผลกระทบต่อสุขภาพของท่านอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ท่านก็ตั้งปณิธานแน่วแน่ว่า จะยังคงยืนหยัดทำงานนี้ต่อไป ทุกสัปดาห์ท่านยังคงเดินทางเข้าไปสอนในคุก 2-3 ครั้ง จนถึงวันนี้มีนักโทษได้รับคำสั่งสอนจากท่านกว่า 10,000 คน สำหรับความยากลำบากเรื่องความเจ็บป่วย ท่านบอกว่าปัญหาไม่ได้อยู่ที่ป่วยไข้ แต่เราต้องทำจิตใจให้เข้มแข็ง ท่านจึงไม่เคยบอกเหล่านักโทษถึงความเจ็บป่วยของตนเอง ท่านจะสอนให้เหล่านักโทษพกพาความหวังกลับไป รู้จักแสดงความเมตตากรุณา ให้กลับตัวกลับใจเพื่อกลับสู่ชีวิตที่มีความหวัง นักโทษที่รับฟังธรรมะจากท่านเคยพูดว่า “แค่ยังมีชีวิตอยู่ พวกเขายังต้องหวังอะไรอีก” เพราะการมีชีวิตอยู่นั่นแหละคือฝั่งฝันของพวกเขาแล้ว
สำหรับชีวิตของแม่ชีเมี่ยวฮุ่ย เมื่อผ่านวิกฤตโรคมะเร็ง ก็เหมือนได้เกิดชีวิตใหม่ เหมือนนั่งเรือออกทะเลมองไม่เห็นฝั่ง และหันกลับมาหาฝั่งจนพบ แม่ชีไม่เพียงแต่ทำให้ชีวิตตนเองกลับสู่เส้นทางแห่งการอยู่รอดเท่านั้น ยังทำให้เหล่านักโทษมากมายมีเส้นทางที่กลับสู่ฝั่งแห่งความหวังเหมือนกัน “สำหรับผู้ป่วยมะเร็งจำไว้ว่าฝั่งของพวกเรา คือ การฟื้นคืนสู่สุขภาพที่แข็งแรง” นี่คือคำพูดทิ้งท้ายของแม่ชีเมี่ยวฮุ่ยที่ยังคงก้องกังวาน
ข้อมูลจาก : Yazhou Zhoukan (เอเชียวีคฉบับภาษาจีน)
ฉบับวันที่ 23 กรกฎาคม 2006
ประวัติส่วนตัวแม่ชี เมี่ยว ฮุ่ย
ตอนอายุ 22 ก็บวชเป็นแม่ชี อุทิศงานแผ่ธรรมในห้องขัง ซึ่งรวมถึงเรือนจำไทเป สถานคุมความประพฤติเยาวชน ศูนย์บำบัดยาเสพติด รับผิดชอบการบำบัดจิตใจนักโทษร้ายแรงในเรือนจำไทเปถึง 20 ปี ได้รับรางวัลจาก กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการศึกษาไต้หวัน และได้เข้าพบท่านประธานาธิบดี เฉิน ซุย เปียน วันที่ 16 เดือน 11 ปี 2001 ยังยืนยันอุทิศตนเพื่อทำงานเพื่อสังคม
มารดาของแม่ชีเป็นมะเร็งปากมดลูก พี่สาวคนที่ 2 เป็นมะเร็งเต้านม สำหรับแม่ชีก็มีเนื้องอกมดลูก ทำให้แต่ละเดือนสูญเสียเลือดปริมาณมาก เจ็บปวดอย่างมาก จึงเข้ารักษาที่โรงพยาบาล แพทย์แผนปัจจุบันให้ฮอร์โมนบำบัด หลังจากนั้น 6 เดือน ก็พบว่าเต้านมข้างซ้ายมีเนื้องอก 8 x 4 x 8 ซม.
แม่ชีปฏิเสธการรักษาแผนปัจจุบัน รับแต่การแพทย์แผนจีนและยาจีน เนื้องอกไม่ได้ขยายใหญ่แต่ก็ไม่หดตัวลง จนในต้นปี 2001 ได้รับการแนะนำยาน้ำสมุนไพรจีนจากเพื่อน หลังจากนั้นหนึ่งเดือนหลังการบำบัดด้วยยาน้ำสมุนไพรจีน มีคนแนะนำให้ทำการฉายรังสี ในช่วงที่รักษาก็ไม่มีอาการคลื่นไส้อาเจียน ผมร่วง แต่เนื่องจากรับประทานเจเป็นเวลานาน ร่างกายขาดวิตามินบี 12 ทำให้ส่วนที่รับการฉายแสงหนังถลอก ไม่หายง่าย นอกจากนั้นการกินเจทำให้เลือดจาง หลังได้รับการแนะนำด้านโภชนาก็ดีขึ้น ในช่วงการบำบัดด้วยการฉายแสง ก็ยังสามารถไปที่เรือนจำ 3 ครั้งต่อสัปดาห์
ตอนนี้แม่ชีหายดี สุขภาพแข็งแรง อาการของโรคได้รับการควบคุม กิจกรรมเผยแพร่ธรรมะยังคงทำอยู่อย่างต่อเนื่อง
หากมีปัญหาสุขภาพผู้ป่วยมะเร็ง เราคืออีกหนึ่งทางออก ที่จะช่วยให้ผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตปกติได้อีกครั้ง ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ โปรดคลิก inbox Facebook ชมรมฟื้นฟูสุขภาพผู้ป่วยโรคมะเร็ง
ชมรมฟื้นฟูสุขภาพผู้ป่วยโรคมะเร็งแห่งประเทศไทย 213/5 อาคารอโศกทาวเวอร์ ชั้น 6 ถ.สุขุมวิท 21(อโศก) แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 1011
Copyright © 2021 www.siamca.com ขอสงวนสิทธิ์ ในการนำรูปภาพ หรือ ข้อความในเว็บไซต์ ไปเผยแพร่ หรือ ทำซ้ำ จะต้องได้รับการอนุญาตก่อนจึงจะกระทำได้