จะดีแค่ไหนมะเร็งหายขาด
วันที่ 27-11-2014 | อ่าน : 10839
ขุดรากถอนโคนมะเร็ง ต้องทำลายที่เซลล์ต้นกำเนิด
เซลล์ต้นกำเนิดมะเร็ง คือ เซลล์มะเร็งตัวอ่อนที่มีลักษณะเกี่ยวข้องกับเซลล์ต้นกำเนิดของเซลล์ปกติ แต่สามารถเจริญเติบโตไปเป็นเซลล์มะเร็งได้ เปรียบเสมือนเมล็ดมะเร็งที่ซ่อนอยู่ในร่างกายรอวันเจริญเติบโตเป็นก้อนมะเร็งในที่สุด
จากความรู้และความก้าวหน้าของเทคโนโลยีด้านเซลล์ต้นกำเนิด ทำให้นักวิทยาศาสตร์พบว่าในเนื้อเยื่อมะเร็งมีเซลล์มะเร็งบางกลุ่มที่มีคุณสมบัติคล้ายคลึงกับเซลล์ต้นกำเนิดหรือที่เรียกว่า เซลล์ต้นกำเนิดมะเร็ง (Cancer stem cells) เซลล์กลุ่มนี้แม้จะมีอยู่จำนวนเล็กน้อยมากเมื่อเทียบกับเซลล์อื่นในก้อนมะเร็ง แต่ก็มีบทบาทสำคัญตั้งแต่กระบวนการเริ่มต้นของการเกิดมะเร็ง
นักวิทยาศาสตร์สันนิษฐานว่าเซลล์ต้นกำเนิดมะเร็งอาจเกิดจากการกลายพันธุ์ของเซลล์ต้นกำเนิดปกติ แนวคิดเกี่ยวกับเซลล์ต้นกำเนิดมะเร็งสามารถอธิบายพฤติกรรมและการดำเนินโรคของมะเร็งได้หลายอย่าง ได้แก่ เป็นส่วนสำคัญที่สนับสนุนให้ก้อนมะเร็งเจริญเติบโตและขยายขนาดได้อย่างต่อเนื่อง มีบทบาทสำคัญที่ทำให้มะเร็งดื้อยาและไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยาเคมีบำบัดและรังสีรักษา
นอกจากนี้เซลล์ต้นกำเนิดมะเร็งยังมีบทบาทสำคัญในการแพร่กระจายของมะเร็ง หากมีการหลุดลอกของเซลล์ต้นกำเนิดมะเร็งจากอวัยวะต้นกำเนิดและไปเจริญในเนื้อเยื่อหรืออวัยวะใหม่ที่เหมาะสม จะสามารถสร้างก้อนมะเร็งใหม่ที่มีลักษณะเช่นเดียวกับมะเร็งในตำแหน่งแรก
เมื่อหมอพูดว่า “มะเร็งไม่มีแล้ว” หรือ “หมอได้ตัดมะเร็งออกหมดแล้ว” หรือ “หมอไม่พบรอยโรคของมะเร็งอื่นๆ อีก” หรือ “รักษาครบไม่พบมะเร็งแล้ว” หมายถึงมะเร็งหายแล้วใช่หรือไม่ นั่นคงเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ความจริงคือ ไม่มีใครสามารถการันตีได้ว่ามะเร็งไปแล้วไปลับ ทุกคนมีเซลมะเร็งอยู่ในร่างกาย เซลมะเร็งเหล่านี้จะไม่ปรากฏด้วยวิธีการตรวจสอบตามมาตรฐาน จนกระทั่งมันขยายตัวเพิ่มขึ้นในระดับพันล้านเซล
เมื่อหมอบอกว่าไม่มีเซลล์มะเร็งในร่างกายผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ได้รับการรักษาแล้ว มันมีความหมายแค่เพียง ระบบไม่สามารถตรวจสอบเซลล์มะเร็งได้เพราะจำนวนของมันยังไม่มากพอ
มะเร็งแตกต่างจากโรคอื่นตรงที่มักกลับมาเป็นซ้ำภายหลังการรักษา ลุกลามแพร่กระจายจนทำลายชีวิตผู้ป่วยในที่สุด สาเหตุสำคัญ ได้แก่
(1) เรามักพบเซลล์มะเร็งเมื่อมีการแพร่กระจายสู่กระแสเลือดแล้ว แต่เซลล์ที่กระจายออกไปยังเล็กมากจึงไม่สามารถตรวจพบได้ ว่ากันว่าก้อนมะเร็งขนาดเพียง 1 เซนติเมตร จะมีจำนวนเซลล์ถึงพันล้านเซลล์ ในขณะที่มะเร็งมีความสามารถในการสร้างเส้นเลือดใหม่ตั้งแต่ก้อนที่มีเพียง 10 ล้านเซลล์ ซึ่งหมายถึงมะเร็งสามารถแพร่กระจายออกไปสู่กระแสเลือดได้ตั้งแต่ขนาดยังไม่ถึง 1 เซนติเมตร
(2) ยารักษาโรคมะเร็งในปัจจุบันนี้ไม่สามารถทำลายเซลล์ต้นกำเนิดมะเร็งได้ การรักษาด้วยยาเคมีบำบัดโดยทั่วไป ผลการรักษาในระยะแรกมักได้ผลดีในภาพรวม เพราะก้อนมะเร็งมีขนาดลดลงมากจนอาจฝ่อหายไป แต่เนื่องจากยังคงมีเซลล์ต้นกำเนิดมะเร็งหลงเหลืออยู่ แม้เพียงเล็กน้อย เซลล์เหล่านี้ก็สามารถแบ่งตัวเจริญเติบโตและพัฒนากลายเป็นก้อนมะเร็งก้อนใหม่ที่คงลักษณะของมะเร็งเดิมทุกประการ
มีหลายการศึกษาที่พิสูจน์ได้ว่าเซลล์ต้นกำเนิดมะเร็งเป็นเซลล์ที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษา ไม่ว่าจะเป็นการรักษาด้วยยาเคมีบำบัดหรือการใช้รังสีบำบัด เช่น มะเร็งเต้านม ซึ่งมีการพิสูจน์แล้วว่าเซลล์ที่มีโปรตีนบ่งชี้บนผิวเซลล์ที่มีคุณสมบัติของเซลล์ต้นกำเนิดมะเร็ง การศึกษาผลกระทบของการใช้ยาเคมีบำบัดต่อเซลล์กลุ่มนี้ในผู้ป่วยมะเร็งเต้านม โดยการประเมินผลตรวจชิ้นเนื้อของผู้ป่วยก่อนและหลังการรักษาประมาณ 12 สัปดาห์ พบว่าหลังการรักษาด้วยยาเคมีบำบัดอัตราเซลล์ต้นกำเนิดมะเร็งกลับมีจำนวนเพิ่มขึ้น
กลไกที่น่าจะเป็นเหตุผลที่ทำให้เซลล์ต้นกำเนิดมะเร็งไม่ตอบสนองต่อการรักษาหรือดื้อยานั้น มีหลายประการ
(1) เซลล์ต้นกำเนิดมะเร็งมีอัตราการแบ่งตัวต่ำ ทำให้ยาเคมีบำบัดที่ส่วนใหญ่มุ่งเป้าหมายทำลายเซลล์ที่กำลังแบ่งตัว ไม่สามารถทำลายเซลล์ต้นกำเนิดมะเร็งได้
(2) เซลล์ต้นกำเนิดมะเร็งมีการแสดงออกของโปรตีนที่เยื่อหุ้มเซลล์ ทำหน้าที่ขับยาเคมีออกนอกเซลล์ ทำให้ยาไม่ถูกสะสมในเซลล์และไม่สามารถไปยังเป้าหมายหรือทำงานได้
(3) เซลล์ต้นกำเนิดมะเร็งมีระบบซ่อมแซมสายดีเอ็นเอ และมีการแสดงออกของโปรตีนกลุ่มยับยั้งการตาย ที่ดีกว่าเซลล์มะเร็งอื่นๆ ดังนั้นการรักษามะเร็งโดยยาเคมีบำบัดหรือการฉายรังสีที่เหนี่ยวนำให้เกิดการทำลายดีเอ็นเอและทำให้เซลล์มะเร็งทั่วไปตาย จึงไม่ได้ผลในกลุ่มเซลล์ต้นกำเนิดมะเร็ง
จากข้อมูลเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่า ในการรักษามะเร็งให้ได้ผลนั้น สิ่งสำคัญ คือ คือ ทำลายทั้งเซลล์มะเร็งและเซลล์ต้นกำเนิดมะเร็งไปพร้อมกัน ทำอย่างไรจึงจะบรรลุเป้าหมายนี้ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม 02-664-0078-9
หากมีปัญหาสุขภาพผู้ป่วยมะเร็ง เราคืออีกหนึ่งทางออก ที่จะช่วยให้ผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตปกติได้อีกครั้ง ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ โปรดคลิก inbox Facebook
ชมรมฟื้นฟูสุขภาพผู้ป่วยโรคมะเร็ง