ชัยชนะเริ่มต้นที่ตัวเรา

วันที่ 27-11-2014 | อ่าน : 4661


ชัยชนะเริ่มต้นที่ตัวเอง

 



       กิ่งฉัฐม์ มงคลสุวัฒน์ ปีนี้เข้าสู่วัย 59 ปีแล้ว ก่อนหน้านี้ใช้ชีวิตอย่างปกติสุขมาโดยตลอด แต่เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2555 เธอถูกตรวจพบว่าเป็นมะเร็งเต้านม ก้อนมะเร็งประมาณ 4 เซนติเมตร ขนาดเท่าลูกมะนาว นอกจากนี้มะเร็งยังลามไปที่ต่อมน้ำเหลืองแล้ว โดยจากการสุ่มตรวจต่อมน้ำเหลือง พบมะเร็งถึง 8 ใน 9 ต่อม หมอวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งเต้านมระยะ 3 เป็นมะเร็งชนิดที่ติดฮอร์โมน หรือมีความอ่อนไหวต่อฮอร์โมนเอสโตรเจน ที่ร้ายไปว่านั้น เป็นมะเร็งที่ติดเฮอร์ทู (Her-2) หรือมียีนมะเร็งเฮอร์ทูเข้ามากระตุ้น ทำให้มะเร็งทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น เสี่ยงต่อการเกิดซ้ำสูง คุณกิ่งฉัฐม์รีบตัดสินใจการรักษาด้วยการผ่าตัดทั้งเต้าทันที จากนั้นเข้ารับเคมีบำบัด ฉายรังสี ร่วมกับการใช้แพทย์ทางเลือก ใช้เวลารักษาประมาณ 1 ปี จนปัจจุบันนี้ไม่พบเซลล์มะเร็ง จากประสบการณ์ที่ยากลำบากตลอด 2 ปีกว่า คุณกิ่งฉัฐม์มีเรื่องราวอันประโยชน์ที่พร้อมจะแบ่งปันให้แก่ผู้ป่วยมะเร็งทุกคน

 

ครั้งแรกที่เจอ
       ในครั้งแรกดิฉันพบก้อนด้วยตนเอง แต่คิดว่ามันคงเป็นเนื้องอกไม่เคยคิดถึงมะเร็ง จึงไม่ได้สนใจมากนัก ยังปล่อยไปเรื่อยๆ แต่ปรากฏว่าก้อนเริ่มใหญ่ขึ้น แล้วเรายังรู้สึกเหนื่อยง่ายผิดปกติจึงไปพบแพทย์ ตอนนั้นความที่รู้แล้วว่าเรามีก้อนนี้อยู่จึงไม่วิตกกังวลมาก ไม่เคยคิดเลยว่าจะเป็นอะไรร้ายแรง


       พอไปถึงโรงพยาบาล ปรากฏว่าแพทย์ตกใจ เขาบอกว่า อุ๊ย! ทำไมใหญ่อย่างนี้ ปล่อยให้อยู่อย่างนี้ได้ยังไง หมอเลยรีบผ่าตัดเล็กดู และบอกกับดิฉันว่าน่าจะเป็นมะเร็งขั้นเริ่มต้น ดิฉันก็ไม่ตกใจเท่าใดนัก บอกให้หมอรีบตัดก้อนนี้ออกไปเลย แต่พอจะตัดเข้าจริงๆ ก้อนมันใหญ่เกินไป ต้องผ่าตัดเอาทั้งเต้าออกไปด้วย ดิฉันจึงต้องเข้าผ่าตัดเต้านมในอีก 1 สัปดาห์หลังจากนั้น และสุดท้ายจึงรู้ว่าตัวเองเป็นมะเร็งเต้านม


ความรู้สึก
       แม้รู้ว่าเป็นมะเร็ง แต่ดิฉันก็ไม่ได้ตกใจมาก มีความรู้สึกว่าเราอยู่มาก็ใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่าแล้ว อะไรจะเกิดก็ไม่เป็นไร เราจะไปเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น ดิฉันไม่กลัวกับความตาย แต่ขออย่างเดียวว่าหากยังต้องอยู่ ขออย่าให้อยู่แบบทรมาน
 

การรักษา
       หลังจากผ่าตัดเสร็จ คุณหมอด้านเคมีบำบัดก็เข้ามาหาถึงห้องพักผู้ป่วย แล้วแจ้งว่าคุณเป็นมะเร็งระยะ 3 แล้วนะ ไม่ใช่ระยะเริ่มต้นอย่างที่เข้าใจตั้งแต่แรก เราต้องรักษาด้วยเคมีบำบัด 8 ครั้ง ฉายแสง 25 ครั้ง ตกลงคุณจะทำไหม ซึ่งดิฉันรีบตอบตกลงทำตามแผนการรักษาทันที
       หลังจากผ่าตัด 45 วัน ดิฉันจึงเริ่มรับเคมีบำบัด ใน 4 เข็มแรก เป็นยาที่ฉีดเข้าเส้นก็ยังไม่รู้สึกเจ็บปวดทรมานนัก แต่พอเข็มที่ 5 เริ่มเปลี่ยนเป็นยาให้แบบหยดเหมือนให้น้ำเกลือ ตอนนั้นรู้สึกทรมานไปหมด มันจะปวดข้อ ปวดทั่วตัว แม้แต่จะเดินเหินเหยียบเท้าลงไปก็ยังเจ็บเท้า ไม่มีแรงยืน ไม่มีแรงจะเดิน กินอะไรแปลกๆ หน่อยก็ท้องเสีย เช่น วันหนึ่งอยากกินขนมจีนมาก พอกินเข้าไปหน่อยก็ท้องเสียทั้งอาทิตย์ ต้องวิ่งเข้าห้องน้ำทุก 15-20 นาที


การดูแล
       ช่วงที่ไม่สบายจากอาการข้างเคียงของเคมีบำบัด ดิฉันมักจะดูแลแก้ไขด้วยตนเอง จุดนี้ไม่อยากแนะนำให้ผู้ป่วยท่านใดทำตาม เพราะเราไม่ได้มีความรู้ที่ถูกต้องเพียงพอ บางครั้งแก้เองได้ก็ถือว่าโชคดีไป แต่หากแก้ไม่ได้จะเป็นผลเสียมากต่อสุขภาพ ยกตัวอย่าง ตอนดิฉันท้องเสียก็หายาฆ่าเชื้อกินเอง ไม่หายก็ดื่มน้ำชา ผลคือหายท้องเสีย แต่การดื่มน้ำชาตลอดทั้งสัปดาห์เพื่อลดอาการท้องเสีย ผลเสียที่ตามมา คือ เลือดจาง ดังนั้นผู้ป่วยมะเร็งหากมีอาการฉุกเฉินอะไรขึ้นมาควรต้องรีบพบแพทย์


       ระหว่างการรักษาหมอแนะนำให้ดิฉันกินทุกอย่างเพื่อรักษาน้ำหนักตัว ดิฉันก็พยายามทำตามที่หมอแนะนำ ทำให้น้ำหนักไม่ลดระหว่างรักษา และโชคดีที่ระหว่างรักษาช่วงหลัง มีคนรู้จักคนหนึ่งแนะนำให้ดิฉันใช้ยาน้ำเทียนเซียน ดิฉันกิน 3 ขวด (60ซีซี) ต่อวัน รู้สึกว่าทุกครั้งที่ไปรับการรักษา ขณะที่คนอื่นไม่ไหว ปากเป็นแผล กินข้าวไม่ได้ แต่เราทำทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดีตลอดหลังจากนั้น เราไม่ทรมาน เราไม่ปวดเมื่อย กินอาหารได้ปกติ มีแรง จบการรักษาโดยไม่กลัวอะไรอีกแล้ว เราเจอเพื่อนๆ ผู้ป่วยที่โรงพยาบาล เห็นเขาทรมานก็เห็นใจมากและแนะนำให้พวกเขาลองใช้ยาน้ำเทียนเซียน


ชัยชนะ
       หลังจากจบเคมีบำบัดและฉายรังสี ดิฉันไม่พบเซลล์มะเร็งแล้ว แต่เนื่องจากเป็นเซลล์มะเร็งที่อ่อนไหวต่อฮอร์โมน ดิฉันจึงต้องใช้ยาต้านฮอร์โมนต่อเนื่อง 5 ปี ส่วนยาต้านยีนมะเร็งเฮอร์ทูไม่ได้ใช้ แต่ใช้ยาน้ำเทียนเซียนต่อเนื่องเพื่อดูแลสุขภาพ เพราะดิฉันกลัวมะเร็งเกิดซ้ำมาก ตอนนี้ผ่านมากว่า 2 ปี ดิฉันรู้สึกแข็งแรงดี ตรวจติดตามผลครั้งล่าสุดเมื่อต้นเดือนกันยายน 2557 ผลเป็นปกติ


       เคล็ดลับในการต่อสู้มะเร็งหรืออยู่กับมะเร็งอย่างมีความสุข ดิฉันคิดว่าจิตใจเราสำคัญที่สุด เราต้องเข้มแข็งจึงจะสู้กับมันได้ กำลังใจจากคนรอบข้างก็สำคัญ ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกไม่เครียด เรามีปัญหาอะไรหรือเป็นอะไรก็แก้ไขตามขั้นตอน อย่ามีอารมณ์กับทุกสิ่ง อย่ากังวล


       สุดท้ายอยากจะให้ฝากกำลังใจให้ผู้ป่วยทุกคน ทุกอย่างต้องเริ่มที่ตัวเราก่อน ตัวเราต้องสู้ และแสดงให้ทุกคนเป็นถึงความตั้งใจที่จะอยู่รอดของเรา ให้เห็นว่าเราตั้งใจที่จะหายจากความเจ็บป่วย พอเป็นอย่างนี้แล้วคนรอบข้างเห็น พวกเขาก็จะพยายามหาความสุขมาให้เราเอง ดิฉันขออวยพรให้ทุกคนพิชิตมะเร็งให้สำเร็จไปด้วยกัน
 

ขอรับเอกสารสำหรับผู้ป่วยมะเร็งได้ฟรี คลิกที่นี่ หรือโทร  02-6640078 

 

หากมีปัญหาสุขภาพผู้ป่วยมะเร็ง เราคืออีกหนึ่งทางออก ที่จะช่วยให้ผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตปกติได้อีกครั้ง ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ โปรดคลิก inbox Facebook ชมรมฟื้นฟูสุขภาพผู้ป่วยโรคมะเร็ง

การรักษาผู้ป่วยมะเร็ง
การดูแลผู้ป่วยมะเร็ง
ตรวจวินิจฉัยมะเร็ง

ชมรมฟื้นฟูสุขภาพผู้ป่วยโรคมะเร็งแห่งประเทศไทย 213/5 อาคารอโศกทาวเวอร์ ชั้น 6 ถ.สุขุมวิท 21(อโศก) แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 1011

Copyright © 2021 www.siamca.com ขอสงวนสิทธิ์ ในการนำรูปภาพ หรือ ข้อความในเว็บไซต์ ไปเผยแพร่ หรือ ทำซ้ำ จะต้องได้รับการอนุญาตก่อนจึงจะกระทำได้