การตรวจ MRI

วันที่ 18-07-2014 | อ่าน : 14569


 

การตรวจ MRI
 


 

       เครื่องสร้างภาพด้วยสนามแม่เหล็กไฟฟ้า (Magnetic  Resonance  Imaging : MRI) เป็นเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่คิดค้นขึ้นเพื่อนำมาใช้วินิจฉัยและติดตามผลการรักษาได้ชัดเจนดียิ่งขึ้น  โดยอาศัยหลักการของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าและคลื่นวิทยุ  ด้วยการส่งคลื่นวิทยุเข้าสู่อวัยวะเป้าหมาย  และรับคลื่นสะท้อนกลับแล้วนำสัญญาณที่ได้มาประมวลผลและสร้างภาพด้วยคอมพิวเตอร์  โดยภาพที่ได้จะเป็นภาพเสมือนจริงในหลายๆ ระนาบ  จึงทำให้แพทย์สามารถมองหาสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้นในร่างกายได้อย่างละเอียด  ดังนั้นการตรวจด้วยเครื่อง MRI จึงมีความปลอดภัยค่อนข้างสูงสำหรับผู้ป่วย  เนื่องจากไม่มีผลข้างเคียงทางด้านรังสี

       เวลาในการตรวจโดยทั่วไปประมาณ 30 นาที – 2 ชั่วโมง  ขึ้นอยู่กับอวัยวะที่จะตรวจและโรคที่สงสัยและในระหว่างการตรวจจะมีเสียงดังเป็นระยะๆ จากการทำงานของเครื่อง

การตรวจ MRI สามารถใช้ตรวจได้ในเกือบทุกอวัยวะ  ได้แก่
       -   อวัยวะภายในกะโหลกศีรษะ เช่น สมอง ต่อมใต้สมอง ตา หูชั้นใน
       -   หลอดเลือดโลหิตในสมอง และหลอดโลหิตภายในลำตัว
       -   ระบบกระดูกสันหลังและไขสันหลัง
       -   บริเวณทรวงอก ช่องท้อง  เต้านมสตรี
       -   เนื้อเยื่อกล้ามเนื้อ กระดูกส่วนต่างๆ รวมทั้งการฉีกขาดของเส้นเอ็นบริเวณข้อต่างๆ

       -   อวัยวะในอุ้งเชิงกราน เช่น มดลูก ต่อมลูกหมาก และกระเพาะปัสสาวะ

การตรวจ MRI ดีอย่างไร?
       -   การตรวจด้วยวิธีนี้สามารถจำแนกคุณสมบัติของเนื้อเยื่อที่แตกต่างกันได้หลายแบบ และตรวจหาสิ่งผิดปกติในระยะแรกได้
       -   ตรวจได้ทุกระนาบโดยไม่ต้องเคลื่อนย้ายหรือเปลี่ยนท่าผู้ป่วย
       -   สามารถตรวจเนื้อเยื่ออ่อนที่อยู่ภายในกระดูกได้
       -   ไม่มีรังสีเอ็กซ์ที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
       -   สามารถทำการตรวจได้แม้เป็นโรคไตวายโดยไม่จำเป็นต้องฉีดสารทึบรังสี
       -   โอกาสแพ้สารที่ใช้ในการตรวจ (Gadolinium) น้อยมาก เมื่อเทียบกับสารทึบรังสีที่ใช้ในการตรวจเครื่องเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์

ข้อห้ามในการตรวจด้วยเครื่อง MRI
       -   อุปกรณ์ทุกชนิดที่มีโลหะนำแม่เหล็กไฟฟ้า  ห้ามนำเข้าห้องตรวจ MRI
       -   ห้ามผู้ที่ผ่าตัดใส่เครื่องกระตุ้นการทำงานของหัวใจให้เป็นจังหวะ
       -   ห้ามผู้ที่ผ่าตัดติดคลิปอุดหลอดเลือดในโรคเส้นเลือดโป่งพอง
       -   ห้ามผู้ที่ผ่าตัดใส่อวัยวะเทียมภายในหู
       -   ห้ามผู้มีโลหะต่างๆ ภายในร่างกาย  เช่น  ข้อเทียมต่างๆ โลหะดามกระดูก
       -   ห้ามสตรีมีครรภ์  โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระยะ 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ แม้ไม่มีการยืนยันว่าเป็นอันตรายต่อเด็ก
       -   ห้ามผู้ที่คิดว่ามีสิ่งแปลกปลอมที่เป็นโลหะติดอยู่ที่ตา

การเตรียมตัวก่อนตรวจ MRI
       -   ในวันตรวจไม่ควรแต่งหน้า  โดยเฉพาะไม่ควรใช้อายชาโดว์และมาสคาร่า  เพราะอาจมีส่วนผสมของโลหะ  ทำให้เกิดเป็นสิ่งแปลกปลอมในภาพได้
       -   ในกรณีที่ต้องฉีดสารเพิ่มความชัดภาพ  ควรงดน้ำและอาหารก่อนการตรวจ 4- 6 ชั่วโมง

คำแนะนำการปฏิบัติตัวก่อนเข้าห้องตรวจ
       -   ถ้าผู้ป่วยเคยผ่าตัดใส่โลหะในร่างกายหรือวัตถุอื่นๆ ต้องบอกเจ้าหน้าที่ก่อนเข้าห้องตรวจเพราะอาจเป็นอันตรายได้
       -   ผู้ป่วยควรปัสสาวะก่อนเข้าห้องตรวจ  เนื่องจากการตรวจอาจจะใช้เวลานาน
       -   ระหว่างทำการตรวจ  ผู้ป่วยต้องไม่ขยับหรือเคลื่อนไหวส่วนที่ทำการตรวจเด็ดขาด  เพื่อจะได้ภาพที่ชัดเจน  
       -    ถอดสิ่งของที่เป็นโลหะ  เช่น  กิ๊บติดผม  ฟันปลอม  ต่างหู  เครื่องประดับ  และสวมชุดพร้อม เปลี่ยนรองเท้าที่ทางโรงพยาบาลเตรียมไว้ให้

       -   โดยทั่วไปไม่จำเป็นต้องมีการเตรียมตัวอะไรเป็นพิเศษ  ยกเว้น  การตรวจช่องท้องควรงดน้ำและอาหารก่อนการตรวจ 4- 6 ชั่วโมง

 

หากมีปัญหาสุขภาพผู้ป่วยมะเร็ง เราคืออีกหนึ่งทางออก ที่จะช่วยให้ผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตปกติได้อีกครั้ง ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ โปรดคลิก inbox Facebook ชมรมฟื้นฟูสุขภาพผู้ป่วยโรคมะเร็ง

อาหารผู้ป่วยมะเร็ง
การดูแลผู้ป่วยมะเร็ง
การรักษาผู้ป่วยมะเร็ง

ชมรมฟื้นฟูสุขภาพผู้ป่วยโรคมะเร็งแห่งประเทศไทย 213/5 อาคารอโศกทาวเวอร์ ชั้น 6 ถ.สุขุมวิท 21(อโศก) แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 1011

Copyright © 2021 www.siamca.com ขอสงวนสิทธิ์ ในการนำรูปภาพ หรือ ข้อความในเว็บไซต์ ไปเผยแพร่ หรือ ทำซ้ำ จะต้องได้รับการอนุญาตก่อนจึงจะกระทำได้