การผ่าตัดรักษามะเร็ง

วันที่ 24-02-2012 | อ่าน : 18911


การผ่าตัดรักษามะเร็ง


การผ่าตัดรักษา มักทำในผู้ป่วยที่โรคมะเร็งยังอยู่เฉพาะที่ตำแหน่งเริ่มต้น (มะเร็งระยะที่ 1)  หรือในบางกรณีเพียงกระจายไปเนื้อเยื่อข้างเคียงหรือลุกลามทะลุผ่านอวัยวะที่เป็นโพรง (ระยะที่ 2) เท่านั้น  ฉะนั้นจะเห็นว่ามักมีการรักษาเสริมด้วยเคมีบำบัดหรือรังสีรักษา ซึ่งมีความสำคัญและเสริมให้ผลการผ่าตัดได้ผลดียิ่งขึ้น

การผ่าตัดในผู้ป่วยโรคมะเร็ง เช่นเดียวกับการผ่าตัดทั่วไป ที่ต้องมีการเตรียมผู้ป่วยให้ดีแก้ไขภาวะผิดปกติต่างๆ ก่อนการผ่าตัด เพื่อให้มีโอกาสเกิดปัญหาแทรกซ้อนน้อยที่สุด และเนื่องจากการผ่าตัดในบางกรณีนั้นเป็นการผ่าตัดใหญ่ที่กินบริเวณค่อนข้างกว้าง ใช้เวลานานและยุ่งยากโอกาสที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนหรือมีความเสี่ยงต่อชีวิตค่อนข้างมาก

วัตถุประสงค์ของการผ่าตัด  :
      1. เพื่อการรักษาให้หายขาด  การผ่าตัดโรคมะเร็งเพื่อหวังผลให้หายนั้น โอกาสดีที่สุด คือ การผ่าตัดครั้งแรกต้องถูกต้องและเพียงพอ สามารถเอาส่วนของมะเร็งออกได้หมด และไม่มีเซลล์มะเร็งตกหล่นไว้ในบริเวณผ่าตัดนั้น
      2. เพื่อการรักษาประคับประคองให้ผู้ป่วยมีชีวิตที่มีคุณภาพที่ดีและนานที่สุด  คือ  เป็นการผ่าตัดเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจากโรคมะเร็ง  ใช้ในกรณีมะเร็งนั้นมีการแพร่กระจายไปมากกว่าที่จะรักษาให้หายได้แล้วด้วยการผ่าตัด  เช่น  การผ่าตัดเพื่อลดอาการปวด  ควบคุมเลือดออกจากมะเร็ง  แก้ปัญหาการอุดตันของลำไส้หรือการติดเชื้อ เป็นต้น เพื่อประคับประคองให้ผู้ป่วยได้มีชีวิตอยู่โดยมีคุณภาพที่ดีและไม่ทรมานจากปัญหาแทรกซ้อนนั้น

ข้อควรพิจารณาในการผ่าตัด :
     1)  การดำเนินของโรค
     2)  การแพร่กระจายของโรค  โดยพิจารณาถึงตำแหน่งและขนาดของเนื้อร้าย  หลังผ่าตัดจะช่วยให้อัตราการทุเลาเบาลงของโรคมีมากน้อยเพียงใด
     3)  ความเสี่ยงของการผ่าตัด ซึ่งขึ้นอยู่กับ
          -  ภาวะสุขภาพของผู้ป่วยเดิม  เช่น  มีภาวะโภชนาการบกพร่อง ภูมิคุ้มกันต่ำ  ภาวะโลหิตจางหรือไม่ เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ควรจะต้องแก้ไขให้ดีขึ้นหรือปกติก่อนผ่าตัด
          -  โรคประจำตัวที่มีอยู่  เช่น  โรคหัวใจ  โรคปอด  ฯลฯ
          -  ชนิดและเทคนิคของการผ่าตัด  ซึ่งขึ้นกับความสามารถและประสบการณ์ของศัลยแพทย์และวิสัญญีแพทย์ 

ชนิดและวิธีการผ่าตัด : 
การผ่าตัดมะเร็งนั้น  ศัลยแพทย์จะหลีกเลี่ยงไม่ไปแตะต้องตัวมะเร็งมากนัก  บริเวณที่กรีดหรือผ่าตัดจะไม่ผ่านเข้าไปในเนื้อหรือก้อนมะเร็ง  เพราะจะทำให้เซลล์มะเร็งมีโอกาสตกหล่นอยู่ บริเวณผ่าตัดจะอยู่รอบนอกห่างจากตัวมะเร็ง ซึ่งระยะจะมากน้อยจากขอบแค่ไหนขึ้นกับชนิดและตำแหน่งของโรค  และอาจผ่าตัดรวมบริเวณของเนื้อเยื่อข้างเคียงหรืออวัยวะที่เป็นโพรง

ชนิดของการผ่าตัดมะเร็งอาจจะแบ่งให้เห็นได้ชัดเจนได้ดังนี้
     1)  การผ่าตัดเอาเฉพาะส่วนของก้อนมะเร็งออก ( Local resection )  มักใช้สำหรับรายที่โรคมะเร็งยังอยู่เฉพาะในบริเวณที่กำเนิด  หรือมีการกระจายของเซลล์มะเร็งเข้าไปยังผิวหนังส่วนข้างเคียงเพียงไม่กี่มิลลิเมตรจากขอบจุดเริ่มต้น  จึงไม่ต้องตัดห่างมาก
     2)  การผ่าตัดบริเวณกว้างโดยตัดเอาส่วนของมะเร็งที่มีการกระจายไปยังเนื้อเยื่อข้างเคียงออกด้วย  ( Radical local resection )  มักใช้สำหรับรายที่มะเร็งมีลักษณะที่กระจายแทรกไปในเนื้อเยื่อข้างเคียงมากจากจุดเริ่มต้นเมื่อตัดจึงมักจะต้องเอาออกกว้าง  ถ้าเป็นที่กล้ามเนื้อก็ต้องเอากล้ามเนื้อนั้นออกทั้งมัดจากตำแหน่งจุดเริ่มต้นถึงจุดกระจาย  แต่ในการทำผ่าตัดเช่นนี้จะต้องคำนึงถึงความพิการที่อาจจะเกิดขึ้นด้วย
     3)  การผ่าตัดบริเวณกว้างโดยตัดเอาส่วนของมะเร็งที่มีการกระจายไปยังต่อมน้ำเหลืองใกล้เคียงออกด้วย  ( Radical  resection  with  en  bloc  excision  of  lymphatics )  ใช้สำหรับรายที่โรคมะเร็งที่จุดเริ่มต้นอยู่ใกล้กับต่อมน้ำเหลืองข้างเคียงของส่วนนั้น  เนื่องจากมะเร็งอาจมีการกระจายไปต่อมน้ำเหลืองแล้ว  โดยที่บอกไม่ได้จากการตรวจคลำ  ซึ่งจะมีผลช่วยให้การผ่าตัดรักษาดีขึ้นหรือช่วยพยากรณ์โรคต่อไปข้างหน้า
     4)  การผ่าตัดอย่างครอบคลุมกว้างขวาง  (Extensive  radical  surgical  procedures)  กระทำในบางกรณีที่ก้อนเนื้องอกมีขนาดใหญ่หรือมีการกระจายเข้าไปในเนื้อเยื่อหรืออวัยวะข้างเคียง  (Local  invasion)  โดยที่ยังไม่มีการกระจายไปที่ไกลๆ  (Distant  metastasis)  ก็มีโอกาสหายได้  เช่น  การผ่าตัดมะเร็งลำไส้ใหญ่ส่วนปลายที่เข้าไปในอวัยวะข้างเคียง  อาจจะต้องตัดอวัยวะนั้นๆ ในช่องเชิงกรานไปด้วย  เช่น  มดลูก  รังไข่  เป็นต้น

ข้อจำกัดของการทำผ่าตัด :
     1)  การทำผ่าตัดที่ไม่สามารถตัดเนื้อร้ายออกได้หมดเนื่องจากก้อนอยู่ติดกับอวัยวะสำคัญๆ
     2)  ไม่รู้ขอบเขตของเซลล์มะเร็งที่แน่นอน (Microextension) หากตัดกว้างผู้ป่วยจะสูญเสียอวัยวะมากเกินไป
     3)  ไม่สามารถตัดต่อมน้ำเหลืองออกได้หมด  เช่น  บริเวณคอ  มีต่อมน้ำเหลืองถึงประมาณ 150 ต่อม หรือจากรอบแยกของเส้นเลือดแดงใหญ่  (Aorta)  ถึงเส้นเลือดของไต (Renal pedicle) มีต่อมน้ำเหลือง 50–75 ต่อม  เป็นต้น
     4)  การผ่าตัดไม่ได้สามารถลดการแพร่กระจายของโรคทางกระแสเลือดหรือน้ำเหลือง  ตลอดจนช่องหรือโพรงต่างๆ
     5)  ในกรณีเนื้องอกมีขนาดใหญ่มากเกินไป  จึงจำเป็นที่จะต้องให้การรักษาด้วยวิธีเคมีบำบัดหรือรังสีรักษาเสียก่อน  เพื่อให้เนื้อร้ายหดตัวมีขนาดเล็กลงง่ายต่อการผ่าตัดออก


ขอรับข้อมูลเพิ่มเติมได้ฟรี คลิกที่นี่ หรือโทร 02-6640078  

หากมีปัญหาสุขภาพผู้ป่วยมะเร็ง เราคืออีกหนึ่งทางออก ที่จะช่วยให้ผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตปกติได้อีกครั้ง ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ โปรดคลิก inbox Facebook ชมรมฟื้นฟูสุขภาพผู้ป่วยโรคมะเร็ง

การรักษาผู้ป่วยมะเร็ง
การดูแลผู้ป่วยมะเร็ง
ความรู้มะเร็ง

ชมรมฟื้นฟูสุขภาพผู้ป่วยโรคมะเร็งแห่งประเทศไทย 213/5 อาคารอโศกทาวเวอร์ ชั้น 6 ถ.สุขุมวิท 21(อโศก) แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 1011

Copyright © 2021 www.siamca.com ขอสงวนสิทธิ์ ในการนำรูปภาพ หรือ ข้อความในเว็บไซต์ ไปเผยแพร่ หรือ ทำซ้ำ จะต้องได้รับการอนุญาตก่อนจึงจะกระทำได้