วันที่ 28-04-2011 | อ่าน : 17055
ห่วงใย...ใส่ใจ...พิชิตมะเร็ง
(ผู้พิชิตมะเร็งต่อมน้ำเหลือง)
โดย นฤทัย พิริยะเกียรติสกุล
ตอนที่ 9 สิ่งดีๆ ที่ได้รับจากมะเร็ง
มะเร็งนั้นได้ให้สิ่งดีๆ กับเราอยู่มาก
ทำให้หนูเปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นอีกคนที่รักเป็น
ทำให้หนูได้สัมผัสถึงความรักที่แท้จริงจากคนรอบข้าง
หลังเคมีบำบัดครั้งที่ 4 ไปแล้ว หมอนัดให้ไปทำการ PET-SCAN เพื่อตรวจดูขนาดก้อนเนื้อในตัว ว่ามันตอบสนองต่อยาคีโมที่ให้ไปอย่างไรบ้าง ลุ้นระทึกมากตอนไปสแกน ภาวนาในใจขอให้มันตอบสนองได้ดี ขอให้มันเล็กลงหดลง จนหายไปทั้งก้อนเลยได้ยิ่งดี
แล้วการให้เคมีบำบัดครั้งต่อไปก็มีอาการคล้ายๆ กับครั้งที่ผ่านมา จะมากหรือน้อยก็มักจะขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเอง ทั้งทางด้านร่างกายและด้านจิตใจ สัปดาห์ใดที่ร่าเริง นั่นหมายความว่าร่างกายมักจะแข็งแรงสมบูรณ์ตามไปด้วย แต่หากสัปดาห์ใดจิตใจไม่ปกติ หงุดหงิดอารมณ์เสีย นั่นก็หมายถึง ร่างกายที่อ่อนแอและย่ำแย่ลงไปด้วยอย่างเห็นได้ชัดเลย
ผลออกมาแล้ว ตื่นเต้นที่สุด สรุปว่าเราโชคดี มะเร็งตอบสนองรวดเร็วมาก จำได้ว่าก่อนหน้าที่จะคีโม มันมีขนาดใหญ่โตมาก ประมาน 7x10x11cm.ได้ แต่พอมาตอนนี้ดีใจมากๆ ก้อนมันเล็กลงเหลือเพียง 3x5x6 cm เท่านั้น! ทั้งแม่ ทั้งหนู และหมอต่างดีใจกันถ้วนหน้า กับการตอบสนองที่ดีเกินคาด ก้อนเล็กลงครึ่งต่อครึ่ง เป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์ใจมาก
ยอมรับนะคะว่ามีบ้างที่รู้สึกยอมแพ้ มีบ้างที่รู้สึกว่าตัวเองไม่ไหวกับการให้เคมีบำบัดแล้ว เพราะมันทรมาน มันเหนื่อยมากจริงๆ จนตัวเองรู้สึกท้อ และมักคิดอยู่บ่อยๆ ว่า พอแค่นี้เถอะ แต่พอเราหันกลับมามองคุณพ่อ กลับมามองคุณแม่ คุณน้า คุณป้า คุณตา คุณยาย พี่น้องและญาติๆ ทุกคน ที่ทุ่มเทดูแล และคอยเป็นกำลังใจคอยช่วยเหลือเราตลอดมา ก็ทำให้หนูกลับมารู้สึกได้ว่า เราไม่ได้อยู่คนเดียวในโลก เราไม่ได้เจ็บปวดกับเรื่องนี้เพียงคนเดียว เราไม่ได้สู้กับมะเร็งแค่คนเดียว แต่เรายังมีอีกหลายคนที่รักและเป็นห่วงเรา รอคอยให้เรากลับไปหายดี เพียงแค่นี้ก็ทำให้แรงฮึดกลับมาได้มากมายก่ายกอง จนในที่สุดก็สามารถผ่านพ้นช่วงเวลาที่ทรมานมาได้ถึงสิบสองเข็มในที่สุด
ฉายแสงครั้งแรก
การให้คีโมจบไปแล้ว และสิ่งต่อไปที่ต้องเจอ คือ การฉายแสง ซึ่งจำนวนการฉายแสงทั้งหมดที่ต้องได้รับ คือ 29 ครั้ง ทำการฉายแสงวันละประมาณ10-15นาที ทุกๆวัน เว้นวันเสาร์ – อาทิตย์ ในขณะที่ทำการฉายแสง ครั้งแรกเลยก็รู้สึกกลัวและประหม่ามาก สงสัยว่าจะเจ็บกว่าการให้คีโมไหม จะมีผลข้างเคียงแย่พอๆ กับการให้คีโมหรือเปล่า แต่สุดท้ายก็ได้รู้ว่ามันดีกว่าการให้เคมีบำบัดเยอะมาก ไม่เจ็บ ไม่ทรมาน ไม่มีการอ้วก หรือคลื่นไส้อีกต่อไปแล้ว จะมีบ้างก็แค่อาการเพลียและเหนื่อยแค่นั้นเอง
เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ ทุกคนในบ้านต่างช่วยกันนับถอยหลังกันยกใหญ่ จนในที่สุดทุกๆ อย่างก็สิ้นสุด การให้เคมีบำบัดและฉายแสงได้สิ้นสุดลงแล้ว มะเร็งที่เคยอยู่ด้วยกันมาแสนนาน เป็นเพื่อนกับหนูมาแสนนาน ก็หายไปพร้อมกับเคมีบำบัดและการฉายแสง ด้วยเช่นกัน ดีใจค่ะที่ทุกอย่างมันลงตัว และในตอนนี้เวลานี้ถึงแม้ตัวหนูเองจะยังอยู่ในช่วงพักฟื้นก็ตาม แต่ความสุขกับสิ่งที่เป็นอยู่ก็มีมากเหลือเกินค่ะ ถึงจะต้องดูแลตัวเองมากขึ้นเป็นพิเศษสักหน่อย ถึงจะต้องยอมรับกับสิ่งที่สูญเสียอะไรหลายต่อหลายอย่างไปบ้าง ทั้งเงิน ทั้งเวลา ทั้งความสุขที่ควรจะมี แต่มันก็คุ้มที่กับการจะได้กลับมามีชีวิตแบบปกติสุขเหมือนทุกคนในบ้าน
ที่จริงสิ่งดีๆ ที่เราได้รับกลับมาจากการเป็นมะเร็งก็มีอยู่มากเหมือนกัน การที่เรารู้สึกเหมือนได้ชีวิตใหม่ ได้เกิดใหม่เป็นคนใหม่อีกที จากเมื่อก่อนเป็นเพียงแค่เด็กดื้อรั้นเอาแต่ใจ อ่อนแอไม่เข้มแข็งคนหนึ่ง เวลาผ่านได้ไปอย่างช้าๆ อย่างเนิ่นนานจนล่วงเลยมาถึงทุกวันนี้ ช่วงเวลาที่เจ็บปวดทรมานได้ผ่านมาและผ่านพ้นไป จะเหลือไว้ก็เพียงบทเรียนบทใหญ่ในชีวิตให้น่าจดจำ ที่ได้สอนให้แก่เด็กดื้อรั้นขี้โมโหคนนี้ จากคนที่ทำอะไรไม่เคยที่จะคิดตรึกตรอง จากคนที่ไม่เคยคิดจะยอมรับฟังความคิดเห็นของใคร จากคนที่มองโลกในแง่ร้ายตลอดเวลา บทเรียนบทใหญ่นั้นได้เปลี่ยนให้เด็กหญิงคนหนึ่งกลายเป็นเด็กหญิงอีกคน ที่แม้แต่ตัวเด็กหญิงคนนั้นเองยังไม่เคยคิดว่าจะเปลี่ยนได้จริงๆ
มะเร็งได้สอนให้หนูกลายเป็นคนที่กล้าจะเปิดใจมองคนอื่นในมุมใหม่ๆ ให้มากขึ้น มองโลกในแง่ดีมากกว่าที่เคยเป็น ความคิดตรึกตรองในการทำสิ่งต่างๆ ก็เริ่มมี และสิ่งยิ่งใหญ่และสำคัญสิ่งหนึ่งสำหรับหนู คือ การที่เราได้รับรู้และสัมผัสได้ถึงความรัก จากคนรอบข้างที่รักเราจริงๆ สักที ก่อนหน้านี้ที่เราสบายดี บางทีเราอาจจะยังไม่พร้อมและไม่มีเวลาว่างพอที่จะรับรู้ถึงมัน เลยมักเอาแต่คิด เอาแต่น้อยใจอยู่คนเดียวว่าไม่มีใครสักคนที่รักเรา แต่พอเราไม่สบาย เวลาที่เรามีมันก็มีมากขึ้น เมื่อลองมองย้อนกลับไปดูบุคคลรอบๆ ตัวเองให้ดี เราจะได้เรียนรู้ว่า เราพร้อมจะเปิดตาเปิดใจรับฟังและรับรู้ถึงความรักที่พวกเขารอคอยที่จะมอบให้เราหรือยัง? แล้วเรารักคนอื่นบ้างหรือยัง? หรือง่ายๆ วันนี้ เรารักตัวเราเองมากพอหรือยัง ? และในวันนี้ หนูเรียนรู้ที่จะรักตัวเองแล้ว ส่งผลต่อไปให้เรียนรู้ที่จะรักคนอื่นเป็น และมองเห็นทุกๆ ความรักที่พวกเขาก็ส่งมาให้หนูเหมือนกัน ทั้งการกระทำ ทั้งคำพูดและทุกกำลังใจ
สุดท้ายนี้หนูอยากขอบคุณทุกคน ขอบคุณที่คอยดูแล คอยให้กำลังใจหนูไม่เคยห่างหาย ขอบคุณคุณแม่ บุคคลที่มีค่าที่สุดในชีวิตของหนู กับการดูแลที่ไร้ที่ติของท่าน ขอบคุณคุณพ่อที่คอยดูแลหนูอยู่ห่างๆ คอยช่วยเหลือและให้กำลังใจไม่ไปไหน ขอบคุณอากงขอบคุณอาม่า ขอบคุณพวกป้าๆ และน้าๆ ทั้งหลาย ที่ไม่เคยเอ่ยปากบ่นรำคาญหรือว่าลำบากในการดูแลหนูสักครั้ง ขอบคุณพี่น้องทั้ง 4 คน ที่รักและเป็นกำลังใจที่ดีเสมอมา ขอบคุณคุณหมออุดมศักดิ์ คุณหมอสุนันทา และพี่ๆ พยาบาลใจดีทุกแผนกที่คอยบริการหนูอย่างดีทุกครั้ง ขอบคุณคุณครูที่ช่วยติดตามด้านการศึกษาให้แก่หนู ขอบคุณเพื่อนๆ ที่รักทุกคนกับกำลังใจดีๆ ที่มีให้กัน ขอบคุณเพื่อนๆ ของคุณแม่กับคำแนะนำที่มีค่าทุกคำแนะนำที่มีให้แก่หนู ขอบคุณพี่หญิง ตัวแทนจำหน่ายยาน้ำเทียนเซียน กับคำแนะนำ ความเป็นห่วงและคอยติดตามเรื่องราวของหนูตลอดเวลา
หนูมั่นใจว่าถ้าในวันนั้นหนูไม่มีพวกคุณทุกคนอยู่ช่วยเหลือ อยู่คอยเป็นกำลังใจให้กับหนู หนูคงไม่มีทางที่จะสามารถก้าวผ่านบทเรียนที่ยากที่สุดบทหนึ่งในชีวิตนี้มาได้ ขอบคุณจริงๆ ขอบคุณทุกคน ขอบคุณ ขอบคุณ และหนูรู้ว่าขอบคุณเท่าไหร่ก็คงไม่พอ
หนูรักทุกคนค่ะ...
หากมีปัญหาสุขภาพผู้ป่วยมะเร็ง เราคืออีกหนึ่งทางออก ที่จะช่วยให้ผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตปกติได้อีกครั้ง ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ โปรดคลิก inbox Facebook ชมรมฟื้นฟูสุขภาพผู้ป่วยโรคมะเร็ง
ชมรมฟื้นฟูสุขภาพผู้ป่วยโรคมะเร็งแห่งประเทศไทย 213/5 อาคารอโศกทาวเวอร์ ชั้น 6 ถ.สุขุมวิท 21(อโศก) แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 1011
Copyright © 2021 www.siamca.com ขอสงวนสิทธิ์ ในการนำรูปภาพ หรือ ข้อความในเว็บไซต์ ไปเผยแพร่ หรือ ทำซ้ำ จะต้องได้รับการอนุญาตก่อนจึงจะกระทำได้