วันที่ 27-04-2011 | อ่าน : 13596
ห่วงใย...ใส่ใจ...พิชิตมะเร็ง
(มะเร็งต่อมน้ำเหลือง)
โดย นฤทัย พิริยะเกียรติสกุล
ตอนที่ 8 แม่ที่ทุุ่มเทเพื่อลูก
แม่โกนหัวให้หนูด้วยตัวเอง ด้วยความกลัวและเกร็ง
รีบวิ่งไปรับยาให้หนูจนสะดุดหกล้มเขียวช้ำ
แต่แม่ไม่เคยปริปากบ่นหนูสักคำ
และแล้วการให้เคมีบำบัดครั้งที่สามก็มาถึง ผลเลือดครั้งนี้ออกมาช่างน่าเศร้า เม็ดเลือดขาวต่ำกว่าเกณฑ์ เสียใจทำอะไรไม่ถูก นึกถึงคำที่แม่บอกไว้ก่อนหน้านี้ได้เลย แม่บอกให้ดูแลตัวเองเยอะๆ บำรุงเยอะๆ ช่วงหลังจากให้ยาเม็ดเลือดขาวจะได้ไม่ต่ำ แม่ขู่ไว้ว่า ถ้าเม็ดเลือดขาวต่ำเมื่อไหร่ ที่ให้คีโมแล้วๆ มา ถือเป็นอันโมฆะ พอนึกขึ้นได้ก็ไม่ทันแล้ว เม็ดเลือดขาวต่ำแล้วสิเราทำไง ห่อเหี่ยวเลยค่ะ เมื่อรู้ว่าต้องให้ใหม่หมดเลย ทำไมเป็นแบบนี้นะ พอเข้าไปพบหมอ บอกขอโทษหมอที่ไม่ยอมดูแลตัวเองดีๆ ไม่บำรุงเยอะๆ เม็ดเลือดขาวเลยตกลงมาขนาดนี้ หมอหัวเราะบอกไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ใครๆ เขาก็เป็น หนูหันไปมองหน้าแม่ทันที อ่าวหลอกกันนี่หว่า ก็เลยขอทางแก้ หมอเลยนัดให้ฉีดยากระตุ้นเม็ดเลือดขาว หลังจากคีโมเสร็จหนึ่งวัน
หนูไปห้องเดย์แคร์เหมือนเดิม ให้ยาตามปกติ และอาจเป็นเพราะเข็มนี้เม็ดเลือดขาวต่ำ ความรู้สึกข้างในแย่มาก เพลียมาก แล้วก็มีอาเจียนบ้างนิดหน่อย กินไม่ได้ นอนไม่หลับ หิวมาก พ่อกลัวกระเพาะเป็นแผลไม่มีอาหารตกถึงท้อง ก็คอยชงอาหารเสริมให้กินตลอดเวลา มีปัญหาเรื่องท้องผูกมากค่ะ คุณยายก็พยายามปอกแอปเปิ้ลให้กินวันละ 3-4 ลูก ทุกวัน การขับถ่ายถึงจะดีขึ้น ผมร่วงเยอะมากจนทนไม่ไหว ใจหายที่อยู่ๆ ผมก็บางลงจนสังเกตได้ เนื่องจากไม่อยากมีสภาพเป็นนกตะกรุม เลยขอร้องให้แม่พาไปตัดผมที่ร้านทันที ด้วยความเป็นแม่ ก็เป็นห่วงเพราะหนูเพิ่งให้ยามาได้แค่วันสองวัน สุดท้ายแม่จึงตัดสินใจ โกนผมให้หนูด้วยสองมือแม่เอง ช่วยกันโกนกับป้าอีกคน ทั้งๆ ที่ แม่ไม่เคยโกนผมให้ใครมาก่อน แต่โกนผมยังไม่ทันไร สักพักหนูก็เป็นลมในห้องน้ำโกนต่อไม่ได้ เลยต้องโกนอีกทีในวันต่อมา หลังจากหายดีก็ได้มารู้ว่า การโกนผมไม่ได้โกนกันง่ายๆ เลย แม่บอกแม่กลัวและเกร็งมากตอนที่โกนให้หนู เนื่องจากกลัวว่าจะทำอะไรผิดพลาด และไปโดนศีรษะ อาจทำให้หนูเป็นแผล เลือดออกและติดเชื้อได้ ได้ยินดังนั้นก็ปลื้มใจ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไม่หยุดเลยค่ะ
แล้วสัปดาห์แห่งการให้เคมีบำบัดครั้งต่อไปก็มาถึง สืบเนื่องมาจากช่วงนี้ไข้หวัด 2009 กำลังแพร่ระบาด เป็นที่นิยมสำหรับทุกเพศวัย ไม่ว่าจะหญิงหรือชาย วัยเด็ก วัยผู้ใหญ่ หรือวัยชรา ไม่เว้นแม้แต่วัยรุ่นอย่างพวกเราๆ ทั้งหลาย และเป็นเรื่องปกติสำหรับคนที่เป็นแม่ก็ต้องมีความเป็นห่วงเป็นใยในตัวลูกแน่นอนอยู่แล้ว จากปกติที่ต้องให้ยาที่โรงพยาบาลของรัฐ ก็เลยได้ฤกษ์ย้ายมาเป็นโรงพยาบาลเอกชนโดยทันที เหตุผลหลักที่ย้ายก็คือ โรงพยาบาลรัฐบาลคนเยอะ ความเสี่ยงที่จะได้รับเชื้อสูง และอีกเหตุผลหนึ่ง คือ แม่ต้องรับภาระหนักในการติดต่อดำเนินเรื่องต่างๆ เช่น การจ่ายยา การพบหมอ การจอดรถ ต่างๆ นานา ซึ่งหนูจำได้ว่าเคยมีอยู่ครั้งหนึ่ง ที่โรงพยาบาลไม่มีที่จอดรถ แม่หนูเลยจำเป็นต้องรีบวิ่งเข้าไปรับยา และอาจเป็นเพราะเร่งรีบ แม่เลยสะดุดหกล้ม กางเกงขาดเป็นรู หัวเข่าถลอกปอกเปิกเขียวช้ำไปหมด แต่ก็ยังรีบลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็วเพื่อไปจัดการทุกอย่างให้เสร็จโดยทันที ความรู้สึกของหนูตอนนั้นแย่มาก ล้มแรงขนาดนั้น มีแผลขนาดนั้น แม่ก็ไม่ปริปากบ่นต่อว่าหนู หรือแม้แต่จะบ่นว่าเจ็บเลยแม้แต่น้อย
โชคดีที่หมอประจำของหนูทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลเอกชนด้วย แม่เลยขอย้ายสถานที่ให้ยาไปเป็นที่นั่นแทน ครั้งนี้หมอแนะนำตัวแทนจำหน่ายยาคีโมตัวสุดท้ายและยากระตุ้นเม็ดเลือดขาวให้หนูโดยตรง ไม่ต้องผ่านโรงพยาบาลเลย หมอบอกว่า โรงบาลเอกชนราคาค่ายาจะต่างจากรัฐบาลมากหลายเท่าตัว หมอเป็นห่วงเรื่องค่าใช้จ่ายของคนไข้ อยากให้เซฟได้มากที่สุด แม่และหนูซาบซึ้งใจมากที่ยังได้เจอหมอดีๆ อย่างนี้อีกในปัจจุบัน
ช่วงนี้กำลังใจดีค่ะ เพื่อนๆ ต่างแวะเวียนผลัดกันมาเยี่ยม บ้างก็โทรมาบ้าง คนที่บ้านรอบตัวก็ยังเอาใจใส่เหมือนเดิมค่ะ เริ่มปฏิบัติตัวกับเราเหมือนเป็นคนปกติแล้ว คอยดูแลอยู่ห่างๆ ให้หนูได้พอมีโอกาสช่วยเหลือตัวเองบ้าง
หากมีปัญหาสุขภาพผู้ป่วยมะเร็ง เราคืออีกหนึ่งทางออก ที่จะช่วยให้ผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตปกติได้อีกครั้ง ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ โปรดคลิก inbox Facebook ชมรมฟื้นฟูสุขภาพผู้ป่วยโรคมะเร็ง
ชมรมฟื้นฟูสุขภาพผู้ป่วยโรคมะเร็งแห่งประเทศไทย 213/5 อาคารอโศกทาวเวอร์ ชั้น 6 ถ.สุขุมวิท 21(อโศก) แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 1011
Copyright © 2021 www.siamca.com ขอสงวนสิทธิ์ ในการนำรูปภาพ หรือ ข้อความในเว็บไซต์ ไปเผยแพร่ หรือ ทำซ้ำ จะต้องได้รับการอนุญาตก่อนจึงจะกระทำได้